เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ม็อบยางโค-อ๊อป สุราษฎร์ธานี ย้ายออกจากสหกรณ์แล้ว ยกพลไปปิดถนนสาย 417 แยกทางเข้าสนามบินเพียงที่เดียว ขณะที่ ถ.พุนพิน-ท่าฉาง เปิดสัญจรได้แล้ว หลังม็อบไปรวมตัวที่ถนนสาย 417 เช่นกัน ส่วนที่ภาคอีสานไร้เงาผู้ชุมนุม เหตุพอใจ ครม. เตรียมช่วยค่าปัจจัยการผลิต
สถานการณ์การชุมนุมของชาวสวนยางพารา และปาล์มน้ำมัน วันนี้ (4 กันยายน 2556) ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีรายงานว่า ชาวสวนยางที่ชุมนุมอยู่ที่บริเวณสหกรณ์สุราษฎร์ธานี กว่า 3,000 คน ได้ย้ายออกจากบริเวณดังกล่าวไปรวมตัวปิดถนนทางหลวงเอเชีย 41 กับ 417 บริเวณจุดตัดกับถนนทางหลวง 417 ห่างจากประตูเข้าสนามบินสุราษฎร์ธานีประมาณ 500 เมตร อยู่ที่เดียวแล้ว เช่นเดียวผู้ชุมนุมที่บริเวณถนนพุนพิน-ท่าฉาง ขณะนี้ก็ได้ย้ายออกจากจุดดังกล่าวไปรวมตัวอยู่ที่จุดตัดทางหลวง 417 เพียงแห่งเดียว ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเปิดการจราจรถนนพุนพิน-ท่าฉางได้แล้ว
ด้านนายบุญโชติ ร่มเย็น เลขาเครือข่ายชาวสวนยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรรมการเครือข่าย 14 จังหวัดภาคใต้ได้มีมติพร้อมใจกันลาออกจากเครือข่ายทั้งหมดแล้ว และประกาศยุติการชุมนุม เนื่องจากเห็นว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ชาวสวนยางพาราได้ จึงไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์การจัดตั้งเครือข่ายตามเจตนารมณ์ภาครัฐ
ในส่วนสถานการณ์การชุมนุมของเกษตรกรสวนยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น พ.ต.อ.ชัชวาล หมั่นนอก หัวหน้าตำรวจสันติบาลจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในวันนี้ไม่มีกลุ่มชาวสวนยางภาคอีสานออกมาชุมนุมกันที่ทางต่างระดับ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา แต่อย่างใด ซึ่งจากการสอบถามก็ทราบว่า แกนนำทุกกลุ่มพอใจที่มติ ครม. เมื่อวานนี้ (3 กันยายน 2556) มีความชัดเจนในเรื่องของการช่วยเหลือชาวสวนยาง โดยจะให้ค่าปัจจัยการผลิตเป็นเงินสด อัตราไร่ละ 1,260 บาท ไม่เกิน 10 ไร่
[15.00 น.] ตัวแทนชาวสวนยางนครศรีฯ ยอมเข้า กทม. ถกฝ่ายรัฐบาลอีกครั้ง
สถานการณ์การชุมนุมของชาวสวนยางพาราที่จังหวัดนครศรีธรรมราชในช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เข้าหารือกับตัวแทนชาวสวนยางพารา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งทางชาวสวนเรียกร้องให้รัฐบาลรับประกันราคายางพาราแผ่นดิบชนิด 3 ราคา 120 บาทต่อกิโลกรัม และราคาปาล์มน้ำมัน 7 บาทต่อกิโลกรัม
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ธวัช ไม่สามารถตัดสินใจในเรื่องนี้ได้ จึงเสนอให้ตัวแทนเข้ามาเจรจากับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงในกรุงเทพมหานคร โดย พล.ต.ต.ธวัช รับปากจะดูแลเรื่องความปลอดภัย และจะพากลับมาส่งที่จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังเจรจาเสร็จสิ้น ทำให้แกนนำประชุมกันอยู่พักหนึ่งก่อนจะรับข้อเสนอจะส่งตัวแทนมาเจรจาที่กรุงเทพฯ พร้อมระบุว่า พร้อมจะยกระดับการชุมนุมทันทีถ้าไม่ได้ตามข้อเรียกร้อง
[14.11 น.] ผบ.ตร. รอดูสถานการณ์ก่อนขอศาลสั่งเปิดพื้นที่ชุมนุม
เมื่อเวลาประมาณ 14.11 น. มีรายงานข่าวว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เผยถึงสถานการณ์ม็อบยางในภาพรวมว่า ขณะนี้ยังคงมีการชุมนุมและปิดถนนในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ กระบี่ พัทลุง นครศรีธรรมราช และ สุราษฎร์ธานี โดยยอมรับว่า มีความกังวลเรื่องการชุมนุมในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมาตรการรองรับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะการปิดสนามบินที่ยืนยันว่า ไม่สามารถทำได้ ส่วนจะมีการขออำนาจศาลเพื่อขอเปิดพื้นที่การชุมนุมหรือไม่ ต้องดูตามสถานการณ์อีกครั้ง
พล.ต.อ.อดุลย์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ในขณะนี้ ยังไม่มีความจำเป็นต้องประกาศใช้กฎหมายพิเศษอื่น เนื่องจากมี พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 คอยควบคุมอยู่แล้ว แต่ขอฝากเตือนไปยังแกนนำว่า ห้ามปลุกระดมหรือนำมวลชนมาปิดถนน เพราะทำให้ประชาชนเดือดร้อน และหากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีทางอาญา นอกจากนี้ ยังทราบมาว่า แต่ละจังหวัดกำลังทยอยออกหมายจับแกนนำในพื้นที่ต่าง ๆ แล้ว
[12.00 น.] ม็อบสวนยาง โค-อ๊อป เสียงแตก ! กว่า 1 พันคน ปิดถนนอีกเส้นทาง
วันที่ 4 กันยายน 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การชุมนุมของเกษตรกรชาวสวนยางพารา ที่สหกรณ์สุราษฎร์ธานี หรือ โค-อ๊อป อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ว่า เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กลุ่มที่ชุมนุมรอฟังการเจรจาภายในโค-อ๊อป กว่า 1,000 คน ได้เคลื่อนตัวออกไปปิดถนนบริเวณจุดตัดทางแยกถนนทางหลวงเอเชีย 41 กับถนนทางหลวง 417 (ท่าอากาศยาน-สุราษฎร์ธานี) เนื่องจากไม่พอใจผลการเจรจาของแกนนำกับตัวแทนรัฐบาล โดยทาง พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำได้เพียงรับข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุม คือ ราคายางแผ่นดิบชั้น 3 กิโลกรัมละ 92 บาท น้ำยางสด กิโลกรัมละ 82 บาท ยางก้อนถ้วย กิโลกรัมละ 83 บาท และปาล์ม กิโลกรัมละ 6 บาท แต่ยังไม่สามารถให้คำตอบว่าจะได้หรือไม่
ทั้ง นี้ หลังจากการเจรจาดังกล่าวแกนนำบางคนจะพยายามที่จะยุติการชุมนุมภายในวันนี้ ขณะที่กลุ่มของ นายเสงี่ยม เกิดสมบัติ อดีตกำนันตำบลคลองไทร อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ไม่พอใจผลการเจรจา จึงได้ย้ายจากจุดสะพานต่างระดับหน้า สหกรณ์สุราษฎร์ธานี มาสมทบ และได้แยกผู้ชุมนุมไปปิดถนนสายพุนพิน-ท่าฉาง ส่งผลให้เส้นทางสัญจรเข้าสู่ อ.พุนพินและ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี และเส้นทางสู่ภาคใต้เป็นอัมพาต
ซึ่งในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรึงกำลังบนเส้นทางดังกล่าว โดยยอมให้ผู้ชุมนุมปิดถนนเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะหรือความรุนแรง ส่วนท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ได้ปิดประตูทางเข้า-ออกด้านหน้า เพื่อป้องกันผู้ชุมนุมเข้าไปภายในสนามบิน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
