x close

ศศิน เฉลิมลาภ ประกาศเดินเท้าไปอุทยานฯ แม่วงก์ ประท้วงสร้างเขื่อนแม่วงก์






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Sasin Chalermlarp

              ศศิน เฉลิมลาภ ประกาศเดินเท้าจาก กทม. ไปอุทยานฯ แม่วงก์ ประท้วงสร้างเขื่อนแม่วงก์ ในสัปดาห์หน้า ย้ำชัด การสร้างเขื่อนแม่วงก์ไม่คุ้มค่ากับผืนป่าและระบบนิเวศที่ต้องสูญเสีย

              เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556 นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้เขียนข้อความลงใน เฟซบุ๊กส่วนตัว Sasin Chalermlarp ว่า "ผมอยากเดินเท้าไปแม่วงก์ เพื่อประท้วงการทำงานของคณะกรรมการผู้ชำนาญการที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของโครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน" ซึ่งก็มีนักอนุรักษ์ และกลุ่มต่าง ๆ ที่เห็นด้วยเข้าไปกดไลค์ และประกาศจะร่วมเดินทางไปด้วยเป็นจำนวนไม่น้อย

              ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นายศศิน เฉลิมลาภ และมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้ประกาศไม่เห็นด้วยกับการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ในจังหวัดนครสวรรค์ มาโดยตลอด เพราะจากการศึกษาของกลุ่มพบว่า การสร้างเขื่อนแม่วงก์ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่กลับไปทำลายพื้นที่ป่าธรรมชาติกว่า 1.3 หมื่นไร่ โดยเปล่าประโยชน์ ซ้ำยังกระทบต่อระบบนิเวศในป่าอย่างมหาศาล

              ขณะที่จากการตรวจสอบรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ของกรมชลประทาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็พบว่า ใน EHIA ไม่ได้ระบุข้อมูลอย่างครอบคลุมทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นกับผืนป่า และสัตว์ป่า ทั้งที่ทางกรมอุทยานฯ และกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ระบุว่า บริเวณสบกกเป็นป่าสมบูรณ์ และยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและการขยายพันธุ์ของเสือโคร่ง อีกทั้งยังมีศักยภาพเป็นมรดกโลกที่เชื่อมต่อจากห้วยขาแข้ง และทุ่งใหญ่นเรศวรได้ หากสร้างเขื่อนบริเวณนี้จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างใหญ่หลวง

              "EHIA แม่วงก์ ไม่ได้ศึกษาเรื่องระบบนิเวศของเสือ และศักยภาพของการกระจายตัวของสัตว์ป่าจากห้วยขาแข้งเชื่อมไปยังคลองลาน ทั้ง ๆ ที่มีงานวิจัยของกรมอุทยาน สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า และกองทุนสัตว์ป่าโลกชัดเจนในเรื่องนี้ ดังนั้นการประท้วงมาตรฐานการพิจารณารายงานของคณะกรรมการผู้ชำนาญการของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) จึงเป็นการรักษาความถูกต้องทางวิชาการให้กับประเทศไทย" นายศศิน เคยระบุไว้ในเฟซบุ๊ก

              นอกจากนี้ อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ นายศศิน และมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เดินหน้าคัดค้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ก็คือ การที่ EHIA ระบุว่า พื้นที่จังหวัดอุทัยธานี และลุ่มน้ำสะแกกรัง จะได้รับประโยชน์จากเขื่อนแม่วงก์ด้วย แต่ในความเป็นจริงแล้ว จังหวัดอุทัยธานีจะได้รับประโยชน์จริงเพียงแค่ 0.1% หรือ 291 ไร่ในเขตอำเภอทัพทันเท่านั้น เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ห่างจากเขื่อนกว่า 100 กิโลเมตร ขณะที่พื้นที่อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ ที่ EHIA อ้างว่า ได้รับประโยชน์มากที่สุดถึง 70.39% หรือกว่า 2.05 แสนไร่นั้น นายศศิน มองว่า น้ำคงมาท่วมไม่ถึงอย่างแน่นอน เพราะอยู่ห่างจากพื้นที่สร้างเขื่อนเช่นกัน และคนที่อยู่ใกล้ต้องดึงน้ำไปใช้ก่อน

              "สำหรับผม วิ่งดูน้ำท่วมที่แม่วงก์ลาดยาวอยู่หลายปี แน่ใจว่าน้ำจากแก่งแม่เรวามีไม่พอไปท่วมลาดยาวหรอกครับ น้ำท่วมลาดยาวต้องมีน้ำจากห้วยสาขาใต้เขื่อนอีกเยอะแยะ ในเรื่องน้ำแล้ง น้ำที่แม่วงก์หากมีเขื่อนก็ให้น้ำแค่หนึ่งในสามของพื้นที่ชลประทานที่แสดงมาในโครงการเท่านั้นในฤดูแล้ง ความไม่คุ้มค่าของการเสียป่าที่แม่วงก์ นี่เป็นเหตุให้เราต้องประท้วงการพิจารณารายงาน EHIA ของ สผ. แต่ผมทักท้วงอย่างเป็นทางการร่วมกับเครือข่ายองค์กรอนุรักษ์ไปมากมายแล้ว ไม่เป็นผล ดังนั้น จึงต้องใช้วิธีการประท้วงอย่างสันติ ที่อยากชวนเพื่อน ๆ ไปร่วมด้วย ในอาทิตย์หน้าครับ"

              ด้วยเหตุนี้ นายศศิน จึงต้องออกมาประกาศขอประท้วงการพิจารณารายงาน EHIA อย่างสันติ ด้วยการเดินเท้าจากกรุงเทพมหานครไปยังอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เพื่อต่อลมหายใจเฮือกสุดท้ายให้กับผืนป่าแม่วงก์ และเพื่อปกป้องผืนป่าตามเจตนารมณ์ของ "สืบ นาคะเสถียร" ผู้ที่ยอมอุทิศชีวิตตัวเองให้กับการอนุรักษ์ผืนป่าตราบจนลมหายใจสุดท้าย

              สำหรับอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ มีพื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือ อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร และอำเภอแม่วงก์ และอำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ มีพื้นที่ประมาณ 894 ตารางกิโลเมตร หรือ 558.750 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงชัน และเป็นน้ำตกอันเป็นต้นน้ำของแม่น้ำสะแกกรัง

 



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ศศิน เฉลิมลาภ ประกาศเดินเท้าไปอุทยานฯ แม่วงก์ ประท้วงสร้างเขื่อนแม่วงก์ อัปเดตล่าสุด 23 กันยายน 2556 เวลา 10:28:35 19,891 อ่าน
TOP