เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
พ.ต.ท.สมหมาย อ่อนคำ สารวัตรสืบสวน สภ.เชิงทะเล โดนโจ๋รุมกระทืบจนกรามหัก ขณะนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ เหตุเข้าใจผิดนึกว่าเป็นอริมาทำร้าย ด้าน รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต สั่งล่ากลุ่มโจ๋ พร้อมตั้ง 3 ข้อหาหนัก
หลังจากที่ช่วงเย็นวานนี้ (10 กันยายน 2556) พ.ต.ท.สมหมาย อ่อนคำ สว.สส.สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้ถูกกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน รุมทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บและกรามหัก ขณะนำชุดกำลังสืบสวน สภ.เชิงทะเล ไปยังสนามฟุตบอลโรงเรียนบ้านบางเทา อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อจับกุม นายวิรัช ปราบเภท อายุ 36 ปี แต่ถูกกลุ่มเพื่อน ๆ ของผู้ต้องหารุมทำร้ายร่างกายนั้น
ล่าสุดวันนี้ (11 กันยายน 2556) พ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์, พ.ต.อ.เสน่ห์ ยาวิละ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมเพื่อนข้าราชการตำรวจ ได้นำกระเช้าดอกไม้และเงินช่วยเหลือเบื้องต้นไปมอบให้กับ พ.ต.ท.สมหมาย ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกน้อมเกล้า ห้อง 207 โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยในตอนนี้ พ.ต.ท.สมหมาย ยังไม่สามารถพูดโต้ตอบได้เนื่องจากกรามหน้าหัก แต่ยังคงยิ้มแย้มทักทาย-ขอบคุณนายตำรวจที่มาเยี่ยมด้วยความปลาบปลื้ม ทางแพทย์เตรียมการรักษาด้วยการผ่าตัด และคอยดูแลอาการอย่างใกล้ชิด
สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นนั้น พ.ต.ท.สมหมาย ได้รับรายงานจากชุดสืบสวนว่าพบ นายวิรัช ปราบเภท ผู้ต้องหาตามหมายจับของ สภ.เชิงทะเล และ สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ในข้อหาร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง และหมายจับในคดีวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการทำผิด, ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา กำลังอยู่ที่บริเวณสนามฟุตบอลโรงเรียนบ้านบางเทา จึงนำกำลังชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบจำนวนหนึ่งไปดักซุ่ม จนกระทั่ง พ.ต.ท.สมหมาย ให้สัญญาณเข้าจับกุม
ขณะนั้น นายวิรัช หันมาเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตะโกนเรียกเพื่อน ๆ ให้ช่วย ทำให้กลุ่มวัยรุ่นที่อยู่บริเวณสนามฟุตบอลเข้าใจผิด คิดว่าเป็นกลุ่มอริจะเข้ามาทำร้าย จึงเกิดการตะลุมบอน จน พ.ต.ท.สมหมาย ถูกถีบจากด้านหลังล้มทั้งยืน และถูกรุมกระทืบจนกรามหัก สลบคาสนามฟุตบอล ส่วนชุดสืบสวนที่ติดตามไปด้วยต่างหนีเอาตัวรอด ทำให้ นายวิรัช และพวกสามารถหลบหนีไปได้
ทั้งนี้ พ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์ เผยว่า ได้มีการประชุมเพื่อติดตามจับกุมกลุ่มชายฉกรรจ์ที่รุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยได้สั่งการให้ชุดสืบสวนของ สภ.เชิงทะเล และ กก.สส.ภ.จ.ภูเก็ต ลงพื้นที่หาหลักฐานต่าง ๆ เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อรวบรวมหลักฐานเสนอต่อศาลอนุมัติออกหมายจับ 3 ข้อหาหนัก คือขัดขวางการจับกุม, ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาหลบหนี และร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บสาหัส
นอกจากนี้ยังกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ระมัดระวัง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมักจะมีการรวมตัวประท้วงและปิดล้อมโรงพัก จึงให้ตรวจสอบพยานหลักฐานให้แน่ชัดและให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่ายด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
