รอยเตอร์สชี้นโยบายรถคันแรกพ่นพิษ ทำหนี้เสียท่วม ไม่มีเงินผ่อน-ตลาดรถยนต์ซบเซา ยอดขายลดฮวบ
เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2556 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ผลกระทบด้านลบจากนโยบายรถคันแรกเริ่มปรากฏให้เห็นแล้ว หลังจากที่ผู้ใช้สิทธิ์มีการผิดนัดชำระหนี้ในโครงการดังกล่าวถึงกว่า 1 แสนราย และยังทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ในไทยซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดีทรอยต์แห่งเอเชีย เผชิญภาวะซบเซาอย่างหนักหลังจากที่โครงการนี้หมดอายุลง
รายงานระบุว่า นโยบายรถคันแรกของไทยมีความคล้ายคลึงกับนโยบาย cash for clunkers ในสหรัฐฯ หรือโครงการเทิร์นรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ในสมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เมื่อปี 2552 ซึ่งโครงการรถคันแรกของนั้นทำให้เกิดภาวะบูมในตลาดรถยนต์อย่างถล่มทลาย แต่หลังจากที่โครงการนี้หมดอายุลงเมื่อเดือนธันวาคมปี 2555 กลับพบว่า ผู้ใช้สิทธิ์ในโครงการดังกล่าวมากถึงราว 10% จากจำนวนทั้งหมด 1.2 ล้านคน เปลี่ยนใจเทขายใบจองในภายหลังหรือไม่สามารถชำระหนี้ตามกำหนดได้ และเมื่อเจ้าของรถที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดก็จะถูกบริษัทไฟแนนซ์ยึดรถและนำไปขายต่อ แต่บริษัทรถมือสองก็ต้องเจอยอดขายที่ลดลงเช่นกัน จนทำให้เต็นท์รถขนาดเล็กบางแห่งถึงกับต้องปิดตัวลงไปเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ทางด้านค่ายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นหลายราย ก็ต้องเผชิญกับภาวะซบเซาโดยมียอดขายลดฮวบลงถึง 30% ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ทำให้ค่ายรถยนต์ต้องมีออกโปรโมชั่นต่าง ๆ ทั้งการจับรางวัลและการออกแคมเปญต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย
อย่างไรก็ดี ภาวะเศรษฐกิจไทยในขณะนี้กำลังน่าเป็นห่วง เนื่องจากหนี้ภาคครัวเรือนของประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นถึงระดับ 80% ของจีดีพีประเทศ และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีหนี้ครัวเรือนสูงที่สุดในเอเชีย
