เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm No.5
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ 3 ปรากฏการณ์ความเห็นแก่ตัวของนักการเมือง ทั้งกรณีผลาญงบแก้น้ำท่วม การผุดโครงการเขื่อนแม่วงก์บังหน้า และแก้ที่มา ส.ว. โดยไม่สนใจประชาชน
เมื่อวานนี้ (29 กันยายน 2556) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองอย่างเผ็ดร้อนผ่านทาง เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm No.5 โดยระบุข้อความดังนี้...
"ปรากฏการณ์ "ความเห็นแก่ตัว"
ปรากฏการณ์ 3 อย่าง ได้แก่ "น้ำท่วม เขื่อนแม่วงก์ สภาฯ ผ่านวาระ 3 แก้ไข รธน. (ที่มา ส.ว.)" ได้ผูกโยงให้เห็นถึง "เงื่อนงำ" ของ "รากเหง้า" ปัญหาในประเทศไทยอย่างไม่น่าเชื่อ
"น้ำท่วม" ปัญหาที่เกิดซ้ำซ้อนทุก ๆ ปี เมื่อปี 54 หนักหนาสาหัสเป็น "มหาอุทกภัย" คุณรู้หรือไม่? ว่าประเทศไทยใช้เงินงบประมาณมหาศาล "แก้ไขน้ำท่วม" ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นจำนวนเงินล้านล้านบาท สารพัดโครงการป้องกันน้ำท่วม ไปถึงน้ำแล้ง สลับไปสลับมา ซ้ำซาก วนเวียน อยู่อย่างนี้ปีแล้วปีเล่า เราได้เห็นภาพชินตา ประชาชนขนย้ายของหนี "ภัยน้ำท่วม" และภาพขาดแคลนน้ำจนเป็น "ภัยแล้ง"
ประเทศไทยมีแผน "บูรณาการทางน้ำอย่างยั่งยืน" มาเป็นเวลามากกว่า 20 ปี ปีละสามหมื่นถึงห้าหมื่นล้าน ความจริงแล้ว มันเป็นเพียง "คำนิยาม" เพื่อ "สำเร็จความใคร่งบประมาณประเทศไทย"
ต่อมาเรื่อง "เขื่อนแม่วงก์" มีคนอยากให้ผมพูด แต่ผมอยากให้เห็น "พลังบริสุทธิ์" ของประชาชนที่รวมเป็นหนึ่ง ในการต่อต้านที่ไม่ใช่ "การเมือง" แต่เพื่อเป็นปรากฏการณ์ให้ "นักการเมือง" ล่าถอย เขื่อนแม่วงก์เป็นอีกโครงการที่อ้างเอาจังหวะ "น้ำท่วม" มาเป็น "หน้ากากบังหน้า" ในการเดินหน้า "เขมือบงบประมาณ" ด้วยการก่อสร้างเขื่อนอย่างไม่สน "หน้าอินทร์หน้าพรหม" ใด ๆ ทั้งสิ้น
ปรากฏการณ์ที่สาม "สภาฯ ผ่านวาระ 3 แก้ไข รธน. เรื่องที่มาของ ส.ว." ไม่มีกระแสแรงต่อต้าน เพราะประชาชน "อ่อนแรง" และหมดหวังกับนักการเมือง ขณะที่ประชาชนต้องต่อสู้กับสารพันปัญหารอบตัว นักการเมืองยังมีกะจิตกะใจนำเอา "ปัญหาของตัวเอง" มาแก้ไข โดยที่ไม่ได้แยแส นำเอาความเดือดร้อนของประชาชนมาพิจารณาในสภาฯ เลยแม้แต่น้อย
ทั้งสามปรากฏการณ์แสดงให้เห็น "ธาตุแท้" ของการเมืองไทย
"น้ำท่วม" แสดงให้เห็น ความคงอยู่ของคอร์รัปชั่น
"เขื่อนแม่วงก์" แสดงให้เห็น พลังประชาชนที่ต่อสู้โดยลำพัง
"สภาฯ ผ่านวาระ 3 การแก้ไข รธน. ที่มาของ ส.ว." แสดงให้เห็น ปัญหาของนักการเมือง ย่อมมาก่อนประชาชนเสมอ
ซากปรักหักพังของปรากฏการณ์เหล่านี้ จะกลายเป็น "ประวัติศาสตร์ตกค้าง" ของประชาชนในอนาคต มันเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจาก "พวกคุณแม่งโคตรเห็นแก่ตัว"
