เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
กทพ. เผย ขอเวลาศึกษาวินัยผู้ใช้ทางและขอทดสอบประสิทธิภาพของระบบเก็บค่าผ่านทางอีก 6 เดือน ก่อนตัดสินใจยกไม้กั้นออก เพื่อให้การผ่านด่านอีซี่พาสทำได้เร็วขึ้น
วันนี้ (31 ตุลาคม 2556) นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ชี้แจงการแก้ปัญหาระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ (อีซี่พาส) ว่า ในช่วงที่ผ่านมา กทพ. ได้มีการปรับปรุงระบบอีซี่พาส ในส่วนต่าง ๆ โดยมีการเพิ่มความเร็วในการยกไม้กั้นบริเวณด่านเก็บเงิน ด้วยการลดความยาวของไม้กั้นให้สั้นลงเหลือ 1.9 เมตร จากเดิม 2.9 เมตร
ทั้งนี้ เพื่อให้การยกไม้กั้นใช้เวลาเพียง 10 วินาที และรถวิ่งผ่านด่านได้ด้วยความเร็ว 30-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงต้องรักษาระยะห่างระหว่างคันหน้าไว้ที่ 5 เมตรเท่าเดิม นอกจากนี้ จะขอเวลาศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้ทาง และศึกษาประสิทธิภาพของระบบเก็บเงินอีก 6 เดือน ก่อนตัดสินใจยกไม้กั้นด่านอีซี่พาสออก เพื่อให้การวิ่งผ่านด่านอีซี่พาสทำได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น
ส่วนระบบการเติมเงินค่าผ่านทางอัตโนมัติ หลังจากมีการปรับปรุงระบบรับ-ส่งข้อมูลและระบบประมวลผล รวมถึงโครงข่ายต่าง ๆ ที่มีการเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่แล้ว เมื่อผู้ใช้ทางเติมเงินในบัตรที่หน้าด่าน เงินจะเข้าระบบภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 นาที ซึ่งที่ผ่านมา พบว่า การเติมเงินเข้าระบบเร็วที่สุดจะอยู่ที่ 37 วินาที
นอกจากนี้ ได้มีการติดตั้งระบบดาต้า สปีดเทสต์ สำหรับตรวจวัดความเร็วในการรับ-ส่งและประมวลผลข้อมูล รวมถึงเปลี่ยนระบบไฟสำรองในทุกอาคารด่าน เพื่อความปลอดภัยของระบบ
ส่วนการร่วมกับกรมทางหลวงขยายระบบอีซี่พาสไปยังมอเตอร์เวย์ ที่คาดว่าจะเริ่มใช้งานได้ในสิ้นปี 2556 กทพ. มั่นใจว่า ระบบที่มีการปรับปรุงแล้ว จะสามารถรองรับการใช้งานรับ-ส่งข้อมูลได้ 1 ล้านข้อมูล โดยคาดว่า ปริมาณรถยนต์ผ่านด่านที่เพิ่มขึ้นจากมอเตอร์เวย์ จะมีประมาณ 500,000 คัน ซึ่งระบบยังรองรับได้ แต่ก็ต้องติดตามปริมาณการใช้งานระบบอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากพบปัญหาจะเร่งปรับปรุงระบบให้สามารถรองรับได้ทันที
สำหรับจำนวนผู้ใช้อีซี่พาสในปัจจุบันอยู่มียอดอยู่ที่ 700,000 ใบ มีผู้ใช้งานจริง 500,000-600,000 ใบ เมื่อขยายช่องอีซี่พาสไปยังมอเตอร์เวย์ของกรมทางหลวงแล้ว คาดว่าจะยังสามารถรองรับผู้ใช้ทางระบบดังกล่าวได้จนถึงเมษายนปี 2557
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก