เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์
ป.ป.ช. มีมติเดินหน้าไต่สวน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และสุเทพ เทือกสุบรรณ กรณีสั่งเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เมื่อปี 2553 โดยเตรียมเรียกพยาน 3 ปาก รวมถึง ธาริต เพ็งดิษฐ์ ในฐานะผู้เกี่ยวข้องกับ ศอฉ. มาสอบสวนด้วย
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2556 นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า ที่ประชุมได้พิจารณากรณีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในข้อหาร่วมกันก่อเหตุให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล
สืบเนื่องจากการที่ ศอฉ. มีคำสั่งใช้กำลังเจ้าหน้าที่ในการขอคืนพื้นที่จากการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างเดือน เมษายน-พฤษภาคม 2553 ซึ่งกรณีดังกล่าวถือว่า คล้ายกันกับกรณีที่ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องดังกล่าวไว้ไต่สวนตามรัฐธรรมนูญและจัดทำรายงานเสนอต่อวุฒิสภา
ส่วนการร้องขอให้ดำเนินคดีอาญาที่มีการยื่นขอกว่า 10 สำนวน ที่ระบุว่า ทั้งนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพมีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา ในการสั่งใช้กำลังเจ้าหน้าที่จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตนั้น ตามรัฐธรรมนูญบัญญัติให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวน ดังนั้น ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองจึงอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. ที่จะดำเนินการไต่สวนและอยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพียงศาลเดียวเท่านั้น และไม่เชื่อว่า จะเป็นกรณีขัดแย้งระหว่างองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หลังอัยการสูงสุดดำเนินการฟ้องในศาลอื่น ซึ่งเชื่อว่าผลสุดท้ายศาลจะเป็นผู้พิจารณา
ทั้งนี้ นายวิชาระบุด้วยว่า การไต่สวนได้มีการเตรียมเรียกพยานมาให้ข้อมูลอีก 3 ปาก ซึ่งจะเป็นพยานที่นั่งประชุมร่วมอยู่ใน ศอฉ. รวมถึง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่อยู่ในคณะกรรมการ ศอฉ. ที่ ป.ป.ช. จะสอบถามถึงการสั่งการให้มีการดำเนินการกับผู้ชุมนุม โดยเชื่อว่า จะเร่งดำเนินการเพื่อสรุปและพิจารณาว่า จะแจ้งข้อกล่าวหากับนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ รวมทั้งบุคคลอื่น ๆ ได้ ภายในช่วงเดือนพฤศจิกายน หรือภายในปี 25556
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
