เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เรกูเลเตอร์ เล็งเสนอการปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าฐานของประเทศจากปัจจุบันอยู่ที่ 3.20 บาทต่อหน่วย ชี้ต้นทุนการผลิตเพิ่ม ด้าน กฟน. - กฟภ. ยันไม่ลดค่าบริการ
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2556 ทางเรกูเลเตอร์จะนำเสนอการปรับอัตราค่าไฟฟ้าฐานของประเทศไทยใหม่ หลังจากใช้มา 3 ปีแล้ว ซึ่งอัตราค่าไฟฟ้าฐานที่ประชาชนจ่ายอยู่ปัจจุบันเฉลี่ย 3.20 บาทต่อหน่วยนั้น อาจจะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพียงไม่กี่สตางค์ เนื่องจากปัจจุบันต้นทุนการผลิตไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้นและจะมีผลใช้ต่อเนื่องไปอีก 3 ปี
อย่างไรก็ตาม สาระสำคัญในการปรับค่าไฟฟ้าฐานใหม่นี้จะมีการพิจารณาค่าบริการไฟฟ้าที่เรียกเก็บจากประชาชนใหม่ ซึ่งในการประชุมที่ผ่านมา ทางการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ยังไม่ยอมปรับลดค่าบริการไฟฟ้าลงเหลือ 25 บาทต่อเดือนตามที่เรกูเลเตอร์เสนอ โดยทั้งสองการไฟฟ้าฯ ชี้แจงว่าต้นทุนค่าบริการที่แท้จริงอยู่ที่ 51 บาทต่อมิเตอร์ จากผู้ใช้มิเตอร์ทั้งสิ้น 19 ล้านราย โดยมีการเรียกเก็บเฉลี่ย 38 บาทต่อครัวเรือนนั้นถูกต้องแล้วและไม่สามารถปรับลดได้
ทั้งนี้ เรกูเลเตอร์กำลังพิจารณาแนวทางสัดส่วนการรับภาระค่าบริการดังกล่าวระหว่างภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนใหม่ ซึ่งอาจให้ภาคอุตสาหกรรมรับภาระมากกว่า และครัวเรือนรับภาระลดลง ซึ่งจะทำให้ค่าบริการถูกลงได้
นอกจากนี้ ทางด้าน นางพัลลภา เรืองรอง คณะกรรมการ กกพ. กล่าวว่า จะปรับเปลี่ยนวิธีการใช้และจ่ายไฟฟ้าสำหรับกลุ่มดังกล่าวใหม่โดยใช้วิธีแบบ "พรีเพด" หรือการชำระค่าไฟฟ้าก่อนใช้จริง ซึ่งจะเป็นรูปแบบเหมือนการซื้อบัตรเติมเงินโทรศัพท์ ซึ่งการชำระค่าไฟฟ้านี้สามารถซื้อบัตรเติมเงินค่าไฟฟ้าได้ที่ร้านสะดวกซื้อเช่นกันและป้อนรหัสการใช้งาน และไฟฟ้าจะถูกสั่งจ่ายไปยังบ้านเป้าหมายที่ป้อนรหัสไว้อัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม ระบบดังกล่าวต้องสัมพันธ์กับมิเตอร์ที่เรกูเลเตอร์จะติดตั้งให้ใหม่เป็นมิเตอร์แบบอัจฉริยะ เบื้องต้นคาดว่าจะนำร่องที่พัทยาก่อน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก