x close

จำลอง-สนธิ แถลงจุดยืน ไม่รับอำนาจศาลโลก ตัดสินคดีเขาพระวิหาร


จำลอง-สนธิ แถลงจุดยืน ไม่รับอำนาจศาลโลก ตัดสินคดีเขาพระวิหาร


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์
 
            จำลอง ศรีเมือง ประกาศเตรียมเคลื่อนไหวครั้งใหม่ เพื่อคัดค้านการรับอำนาจศาลโลก โดยมี สนธิ ลิ้มทองกุล ร่วมทัพ ขณะที่สื่อ ASTV เตรียมเกาะติดสถานการณ์คดีเขาพระวิหารอย่างใกล้ชิด

            วันนี้ (11 พฤศจิกายน 2556) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) แถลงจากบ้านพระอาทิตย์ว่า ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2556 การที่ตน และกลุ่มพันธมิตรยุติบทบาทไปนั้น เพราะคาดหวังว่า จะทำให้เกิดการเร่งปฏิกิริยาทางการเมืองให้ประชาชนออกมามากขึ้น โดยไม่ต้องฝากความหวังไว้กับมติพันธมิตร หรืออยู่ภายใต้การนำของพันธมิตร แต่วันนี้ก็ชัดเจนว่า รัฐบาลย่ามใจ จนนำไปสู่การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะคิดว่า หากไม่มีแกนนำอย่างพวกเราแล้วจะไม่มีใครต่อต้าน แต่ปรากฏว่า มีประชาชนออกมาเคลื่อนไหว โดยไม่ต้องมีการชี้นำ หรืออยู่ภายใต้การนำของสีเสื้อใด

            ในแถลงการณ์ของพันธมิตรฉบับสุดท้าย เงื่อนไขเดียวที่จะคุ้มค่าต่อประเทศชาติ เพื่อให้เกิดการรวมตัวของอดีตแกนนำ คือ สถานการณ์ถึงพร้อม และต้องการให้พวกเราเป็นแกนนำ ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน ประชาชนยังกำหนดขอบเขตเพียงการคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และมีแนวร่วมมากมายที่สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว จึงไม่ต้องอาศัยการออกมาของแกนนำพันธมิตร แต่ความจริงปัญหาวิกฤติไม่ได้มีเพียง พ.ร.บ.นิรโทษฯ เท่านั้น

            ลำพังการเคลื่อนไหวคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อย่างเดียว จึงไม่สามารถแก้วิกฤติได้ การขับไล่รัฐบาลก็ยังแก้ไขประเทศไม่ได้อย่างแท้จริง จึงมีเพียงการปฏิรูปประเทศรอบด้านเท่านั้นที่จะแก้วิกฤติได้ และน่ายินดีที่มีการชุมนุมหลายเวที หากมีโอกาสที่สถานการณ์ถึงพร้อม และทุกฝ่ายร่วมกันเรียกร้องปฏิรูปการเมืองให้เป็นเอกภาพในเวลาอันใกล้ ตนหวังว่าองค์กรและสถาบันอื่น จะทำสัญญาประชาคมที่จะปฏิรูปประเทศในการลงโทษผู้กระทำผิดโดยเร็ว ดังนั้น ข้าราชการทุกหมู่เหล่าต้องหยุดทำตามคำสั่งทรราชย์ เพื่อให้เราสามารถฝ่าฟันวิกฤติครั้งนี้ไปได้

            พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า สำหรับวันนี้ เป็นวันสำคัญที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก จะตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร ซึ่งจะเป็นวิกฤติประเทศใหญ่หลวงที่เสียงข้างมากลงมติวาระ 3 รัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ให้รัฐบาลสามารถทำสัญญาระหว่างประเทศ และยกประโยชน์อธิปไตยให้ต่างประเทศได้ โดยไม่ให้ประชาชนรับรู้ก่อนตัดสินพระวิหาร ถือเป็นเจตนาไม่โปร่งใส

            ทั้งนี้ พันธมิตรได้เคลื่อนไหวกรณีปราสาทพระวิหารและผลประโยชน์ทางทะเลมาตั้งแต่ปี 2551 และได้เสนอทางออกไว้แล้วในแถลงการณ์ฉบับที่ 3, 4 และ 5 ซึ่งไม่ว่าผลลัพธ์ออกมาอย่างไร ตนไม่ขอรับอำนาจศาลโลก และจะเดินหน้าคัดค้าน รัฐธรรมนูญ มาตรา190 เพื่อร่วมปกป้องอธิปไตยของชาติจนถึงที่สุด และหากตนเคลื่อนไหวเรื่องใด นายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็จะออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านจนถึงที่สุดด้วย แต่เพื่อประโยชน์ทางวิธีตนจึงขอให้นายสนธิยังไม่ออกมาในตอนนี้ แต่จะให้การสนับสนุนสื่อในเครือเอเอสทีวีถ่ายทอดเพื่อรายงานกรณีดังกล่าว

            ด้าน นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวว่า ประเทศที่มีส่วนได้เสียกับพลังงาน ศาลโลกไม่มีเหตุอะไรที่จะต้องมาพิจารณา เพราะพิจารณาแล้วในปี 2505 แต่ที่พิจารณาอีกทีเพราะความสมบูรณ์ของอ่าวไทย และการตัดสินกรณีเขาพระวิหาร ไม่ใช่แค่พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร หากเราพ่ายแพ้เท่ากับเรายอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ซึ่งลากลงไปถึงพื้นที่ทางทะเล ดังนั้น พลังงานที่อยู่ในอ่าวไทย 3 ส่วน 4 ก็จะเหลือให้ไทยเพียง 1 ส่วน 4 และเป็นเรื่องน่าเสียดาย เนื่องจากผู้นำไทยโง่ที่ยอมรับมติศาลโลก

            ส่วนในเรื่องการเมืองนั้น มองว่า ขณะนี้เป็นสงครามของความดีและความชั่ว เนื่องจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ออกมายอมรับว่า รับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขณะที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเคยเป็นอัยการสูงสุดก็พูดชัดว่า การนิรโทษกรรมไม่เสียหาย ซึ่งเท่ากับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ว่าจ้างข้าราชการระดับสูงให้อยู่แนวหน้าแล้ว ส่วนแกนนำคนเสื้อแดงก็ได้รับเงินจนรวยกันถ้วนหน้า
      
            ดังนั้น การยุบสภาจึงไม่ใช่ทางออก จริง ๆ ต้องยุตินักการเมือง 2-3 ปี เพื่อถวายคืนพระราชอำนาจ จากนั้นให้มีคนมาบริหารงานชั่วคราว เพื่อให้สังคมได้ตกผลึกระบบการเมืองไทยเสียใหม่
 



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จำลอง-สนธิ แถลงจุดยืน ไม่รับอำนาจศาลโลก ตัดสินคดีเขาพระวิหาร อัปเดตล่าสุด 13 พฤศจิกายน 2556 เวลา 11:48:36 24,410 อ่าน
TOP