เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้
พ่อเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว ย้ำสัมพันธ์กับหมอนิ่ม ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบกันอีกต่อไป ขณะที่ หมอนิ่ม โพสต์เฟซบุ๊ก ขอสู้ด้วยชีวิต ไม่ให้ใครเอาสมบัติลูกไป จวกหน้าไม่อาย มาเอาสมบัติของหลาน
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2556 รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ รายงานว่า นายมานพ พณิชย์ผาติกรรม บิดาของ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม ที่ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิต ได้ยื่นต่อศาลเพื่อขอเป็นผู้จัดการมรดกของ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ แล้วตั้งแต่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เนื่องจาก พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยาของ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีจ้างวานฆ่า
ทั้งนี้ นายมานพ ระบุว่า ได้โทรศัพท์แจ้ง พญ.นิธิวดี แล้วว่าได้ยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่ง พญ.นิธิวดี ตอบกลับมาว่า ทรัพย์สินในส่วนที่เป็นของลูกชายนั้นมีเพียงเงิน 2 ล้านที่ฝากอยู่ในบัญชีธนาคาร และมีบ้านในซอยรามคำแหง 174 และรถยนต์อีกสองคันเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดควรต้องตกเป็นของลูกทั้ง 2 คน แต่ตนเห็นว่า พญ.นิธิวดี ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับลูกชาย และมั่นใจว่าทรัพย์สินที่ลูกชายมีอยู่นั้นมีมากกว่าที่ พญ.นิธิวดี อ้าง
อย่างเช่นทรัพย์สินในตู้เซฟที่ พญ.นิธิวดี มาขนออกไปตอนที่ลูกชายอยู่ในเรือนจำ รวมทั้งสถาบันเสริมความงามที่จดทะเบียนในนามของลูกชาย การยื่นขอจัดการมรดกครั้งนี้ เพื่อให้ตนได้มีสิทธิ์ไปดำเนินการฟ้องร้อง พญ.นิธิวดี และธนาคารกสิกรไทยที่ยอมให้ พญ.นิธิวดี เข้าไปเปิดตู้เซฟต่อไป ส่วนเรื่องเงินประกันชีวิตของลูกชายนั้น ที่ผ่านมา พญ.นิธิวดี บอกกับครอบครัวมาตลอดว่ามีเงินประกัน 2 ล้านบาท แต่ตนมาทราบจากข่าวว่าจริง ๆ มีเงินประกันถึง 14 ล้านบาท
เมื่อเป็นเช่นนี้ นายมานพ จึงระบุว่า ความสัมพันธ์ของครอบครัวกับ พญ.นิธิวดี จะเป็นแบบผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ กันอีกต่อไป ถ้าหากตนอยากจะไปเยี่ยมหลานก็คงต้องประสานกับกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ในการเข้าไปเยี่ยมแต่ละครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกัน เฟซบุ๊ก Nithiwadee PhuCharoenyos ได้อ้างชื่อ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ เขียนข้อความระบุว่า ตนเองจะขอเข้มแข็งเหมือนคุณแม่ และจะขอสู้ด้วยชีวิต ไม่ยอมให้ใครเอาสมบัติของลูกทั้งสองคนไป พร้อมกับบอกนายมานพว่า หน้าไม่อายที่คิดจะมาเอาของ ๆ หลาน ดังข้อความต่อไปนี้
"กำลังใจจากลูกน้อยทั้งสองเป็นกำลังใจที่ทำให้แม่ต้องสู้เพื่อหนู แม่ต้องแกร่งและเก่งให้เหมือนคุณยายที่ให้ชีวิตแม่ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อ 38 ปีที่แล้ว และอีกครั้งในวันนี้ ของทุกอย่างที่เป็นสิทธิของน้องชมและน้องปรก แม่จะสู้ด้วยชีวิตไม่ให้ใครมาแตะได้"
"ยุติธรรมแล้วหรือที่จะมาเอาของ ๆ หลานไป ตัวเองไม่เคยมาร่วมสร้าง แต่คิดจะมาเอาของหลาน ช่างหน้าไม่อาย"
สำหรับคดีนี้ ทางพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ยังไม่ได้สรุปสำนวน ว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ ซึ่งต้องรอสำนวนที่ชัดเจน ว่าเกิดจากความแค้นที่ทำร้ายลูกสาว หรือเรื่องทรัพย์สินกันแน่
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก