x close

สื่ออังกฤษเปรียบทักษิณ-แบร์ลุสโคนี นักการเมืองประเภทเดียวกัน


พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี
ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก inserbia, Instagram thaksinlive

          สื่ออังกฤษ เปรียบทักษิณและแบร์ลุสโคนี เป็นนักการเมืองที่รักอำนาจมากกว่าเงิน เล่นการเมืองเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจตัวเอง แม้จะมีศัตรูทางการเมืองมากมายแต่ก็ยังคงได้รับความนิยมจากมหาชนอยู่

          วันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 เว็บไซต์ดิ อินดิเพนเดนท์ ของอังกฤษ ได้เปิดเผยบทความซึ่งเปรียบเทียบ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย กับ ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรี 3 สมัยของอิตาลี ว่ามีความเหมือนกันตรงที่เป็นมหาเศรษฐีผู้รักในอำนาจมากกว่าเงิน และลงเล่นการเมืองเพื่อหวังผลประโยชน์ทางธุรกิจของครอบครัว

          โดย ปีเตอร์ ป็อปแฮม ผู้เขียนบทความ ระบุว่า ในขณะที่ประเทศไทย ได้มีประชาชนหลายแสนคนลุกขึ้นมาประท้วงต่อต้านกฎหมายล้างผิดให้ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีความผิดฐานคอรัปชั่นและใช้อำนาจในทางที่ผิด เพื่อที่จะให้ตัวเองสามารถกลับประเทศได้โดยรอดพ้นจากการถูกลงโทษ ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ของอิตาลี ก็ได้ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาเนื่องจากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานโกงภาษี ดังนั้น ผู้เขียนจึงมองว่า นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญแล้ว ที่เราควรจะตั้งคำถามว่าระบอบประชาธิปไตยจะสามารถคงอยู่ต่อไป และรอดพ้นจากเงื้อมมือของนักการเมืองทั้ง 2 คนนี้หรือไม่

          แม้ว่าทั้งทักษิณและแบร์ลุสโคนีจะมีศัตรูทางการเมืองมากมาย แต่พวกเขาก็ยังได้รับความนิยมอย่างมากจากประชาชน เห็นได้จากการที่ทักษิณลุกขึ้นมาประกาศตัวผ่านทวิตเตอร์ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งที่อยู่ในตำแหน่งยาวสุดในไทย ซึ่งแบร์ลุสโคนี ก็เคยอ้างเช่นนี้เหมือนกันในอิตาลี สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า มหาเศรษฐีพันล้านทรงอำนาจทั้ง 2 คนนี้สามารถสร้างผลกระทบร้ายแรงต่อประชาธิปไตยได้อย่างไรบ้าง

          แน่นอนว่าประชาธิปไตยนั้นมีปัญหาอยู่แล้ว มหาเศรษฐีอย่างพวกเขาจึงได้เข้ามาแก้ปัญหา ดังเช่นแบร์ลุสโคนีที่ลงมาเล่นการเมืองในช่วงเวลาที่อิตาลีเผชิญกับปัญหาคอรัปชั่นและการติดสินบนอย่างหนักในพรรคการเมือง จนกระทั่งเวลาผ่านไป 2 ทศวรรษ แบร์ลุสโคนีก็ได้กลายมาเป็นบุคคลสำคัญในแวดวงการเมืองของอิตาลี และเป็นที่ชัดเจนว่าฐานอำนาจของเขานั้นมาจากความมั่งคั่งในธุรกิจ ที่ช่วยหนุนให้พรรคการเมืองของเขาแข็งแกร่งขึ้น ภายใต้การจัดการของลูกน้องที่อยู่ในอาณาจักรสื่อของเขา และทำให้เขาสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

          แต่แล้ว แบร์ลุสโคนีกลับไร้ประโยชน์ในวงการเมือง เพราะแม้เขาจะอ้างว่าลงเล่นการเมืองเพราะช่วยเหลือประเทศชาติ แต่แท้ที่จริงแล้วเขากลับมุ่งเป้าเพียงการกอบกู้ธุรกิจของครอบครัวเท่านั้น ดังจะเห็นได้จากที่เขาไม่เคยทำอะไรเพื่อประเทศเลย ไม่เคยแก้ปัญหาสำคัญของประเทศ แถมยังพยายามช่วยเกื้อหนุนการหลบเลี่ยงภาษีอีกด้วย

          เช่นเดียวกับอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ที่แม้จะมีนโยบายต่าง ๆ ที่ช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของชนรากหญ้า ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของตัวเองให้ดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกันนโยบายของเขายังเกื้อหนุนต่อธุรกิจของตัวเองและครอบครัว ซึ่งเป็นรากฐานความมั่งคั่งส่วนตัวของเขาไปในเวลาเดียวกัน

          แม้ว่าในขณะนี้ ทักษิณ จะอาศัยอยู่นอกแผ่นดินเกิดมาตั้งแต่ปี 2008 แต่เขาก็ยังคงมีบทบาททางการเมือง ผ่านพรรคเพื่อไทย และให้น้องสาวคนสุดท้อง คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขึ้นนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันแทน โดยตัวเองจะออกคำสั่งต่าง ๆ ผ่านทางโทรศัพท์ หรือสไกป์ อีกทั้งยังเข้าร่วมประชุมผ่านจอมอนิเตอร์ในการประชุมเพื่อตัดสินใจเรื่องสำคัญต่าง ๆ ด้วย

          ท้ายนี้ ปีเตอร์ ผู้เขียนบทความ ยังได้ทิ้งท้ายว่า สำหรับเหตุการณ์ประท้วงครั้งใหญ่ของไทยในขณะนี้ ยังเป็นเครื่องที่สะท้อนให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพของพรรคฝ่ายค้าน ที่ทราบแก่ใจว่าไม่สามารถเอาชนะพรรครัฐบาลได้อย่างแน่นอน หากมีการเปิดให้เลือกตั้งใหม่อีกครั้ง





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สื่ออังกฤษเปรียบทักษิณ-แบร์ลุสโคนี นักการเมืองประเภทเดียวกัน อัปเดตล่าสุด 29 พฤศจิกายน 2556 เวลา 17:42:08 71,995 อ่าน
TOP