เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด, เฟซบุ๊ก Hall Jarinya , ข่าวสด
โรงเรียน ยัน น้องไปป์ไม่ได้ลาออก ยังมาเรียนตามปกติ ด้านนายกฯ น้ำตาคลอ วอนผู้ชุมนุมอย่าไปลงที่ลูก
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การชุมนุมขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังคงเข้มข้นในหลาย ๆ พื้นที่ โดยที่ผ่านมา มีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลหลายคนถูกประชาชนที่ไม่เห็นด้วยเป่านกหวีดใส่ ดังที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วก่อนหน้านี้
แต่ล่าสุด คนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยกับ เว็บไซต์ข่าวสดออนไลน์ ว่า ขณะนี้แม้แต่ น้องไปป์ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชายของนายกรัฐมนตรี ก็ยังถูกผู้ปกครองบางคนในโรงเรียนนานาชาติที่น้องไปป์เรียนอยู่แสดงพฤติกรรมเป่านกหวีดใส่ ขณะที่บางคนยังเดินเข้ามาต่อว่าน้องไปป์ ทันที่เจอหน้าที่โรงเรียน ซึ่งภายหลังทางโรงเรียนได้เชิญกลุ่มผู้ปกครองที่แสดงพฤติกรรมดังกล่าวไปตักเตือนบ้างแล้ว
ทั้งนี้ หลังจากมีข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ปรากฏว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Hall Jarinya โพสต์ข้อความระบุว่า เรื่อง น้องไปป์ถูกเป่านกหวีดใส่เป็นการเต้าข่าวแน่นอน เพราะลูกของเพื่อนสนิทเธอเรียนอยู่ห้องเดียวกับน้องไปป์ ยืนยันว่า น้องไปป์ได้ลาออกจากโรงเรียนไปเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว โดยนายกฯ ส่งลูกชายไปเรียนที่ต่างประเทศ ดังนั้น ข่าวที่ว่ามีคนเป่านกหวีดใส่น้องไปป์จึงไม่เป็นความจริงแน่นอน ดังข้อความต่อไปนี้
"ไปป์ลูกปูไปเรียนอยู่เมืองนอกแล้วใครเป่านกหวีดใส่ได้งัย???
ดิฉันขอแสดงความสงสัยค่ะ กรณีข่าวที่มีข่าวลงใน ข่าวสด ว่าน้องไปป์ลูกแม่ปู ถูกผู้ปกครองโรงเรียนนานาชาติเป่านกหวีดใส่ เต้าข่าวแน่นอนค่ะ เพราะแหล่งข่าวที่ยืนยันชัวร์ มั่นใจได้เลย คือเพื่อนของคนใกล้ชิดฉันมีลูกเรียนอยู่ห้องเดียวกับไปป์บอกว่าปูเอาลูกลา ออกไปเมื่อประมาณสองเดือนที่แล้ว ไปเรียนที่เมืองนอกแล้วแน่นอนค่ะ
การที่มีนักท่องเว็บมากมายอ่านข่าวแล้วด่าทันที ดราม่ากันว่อนเน็ต โดยไม่ตรวจสอบความจริง มันกลายเป็นว่านักเป่านกหวีดโหดร้ายไม่ละเว้นเด็กไร้เดียงสา นี่คือสงครามจิตวิทยาอีกรูปแบบหนึ่งที่นำเด็กมากำบัง !!! ใครโหดกว่าใครคะ!?!?!
การเมืองหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ แม่ที่ไหนจะโง่ให้ลูกตกอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมคะ???
กรุณาช่วยกันแชร์ค่ะ
30 พฤศจิกายน 2556"
อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกัน เว็บไซต์ข่าวสด รายงานว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดนายกรัฐมนตรียืนยันว่า ด.ช.ศุภเสกข์ ไม่ได้เดินทางไปเรียนยังต่างประเทศตามที่มีการกล่าวอ้าง ยังคงศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ ทั้งนี้ ทีมรักษาความปลอดภัยได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น หลังจากน้องไปป์ได้รับผลกระทบ พร้อมกำชับผู้ดูแลว่าหากมีคนเป่านกหวีดใส่ ห้ามตอบโต้เด็ดขาด แต่ให้ใช้วิธีการยิ้มกลับไป ขณะที่น้องไปป์หากมีคนเข้ามาทักหรือเป่านกหวีดใส่ก็จะหันไปยกมือไหว้กลับไป ซึ่งน้องไปป์ก็เข้าใจในการทำหน้าที่ของผู้เป็นแม่ดี
ขณะที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้น โดยได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า น้องไปป์ บุตรชายของนายกฯ ถูกผู้ปกครองเป่านกหวีดใส่ ด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ขออย่าให้ผู้ชุมนุมไปลงกับเด็ก เพราะเด็กไม่รู้เรื่อง ถ้าใครมีลูกก็คงเข้าใจ ถ้าไม่พอใจก็ขอให้มาลงที่แม่ อย่าไปลงกับเด็กเลย ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าลูกชายของตนมีความเข้มแข็ง และตอนนี้ยังคงไปโรงเรียนตามปกติ
ขณะเดียวกัน ทาง นายไมเคิล ฟาร์ลีย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ ก็ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ไม่มีกลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมืองพยายามฝ่าระบบรักษาความปลอดภัยเข้ามาภาย ในโรงเรียนแต่อย่างใด ทั้งนี้ ทางโรงเรียนจะยังเปิดคงทำการเรียนการสอนตามปกติในวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคมนี้
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามไปยังโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ ซึ่งมีคำยืนยันว่า ด.ช.ศุภเสกข์ ยังไม่ได้ลาออกจากโรงเรียนแต่อย่างใด และยังคงมาเรียนหนังสือตามปกติ โดยทางโรงเรียนได้มีมาตรการดูแลความปลอดภัยเด็กนักเรียนทุกคนเป็นอย่างดี
ด้าน พญ.พรรณพิมล วิปุลากร โฆษกกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวแสดงความเป็นห่วงที่มีผู้เป่านกหวีดใส่น้องไปป์ว่า ตามหลักการต้องคำนึงถึงสิทธิของเด็ก หากประชาชนต้องการแสดงออกทางการเมืองก็คือต้องไม่ทำการใด ๆ ที่กระทบต่อเด็กโดยตรง สำหรับน้องไปป์เชื่อว่าคงเข้าใจเรื่องนี้ เพราะคงมีผู้อธิบายถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและเหตุการณ์ที่อาจจะเจอให้ได้ทราบแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
