x close

นักวิชาการย้ำ กองทัพต้องเป็นตัวกลางเจรจา หวั่นเกิดสงครามกลางเมือง



นักวิชาการย้ำ กองทัพต้องเป็นตัวกลางเจรจา หวั่นเกิดสงครามกลางเมือง


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @news1005fm

            นักวิชาการ ชี้ ยิ่งลักษณ์ มีทางเลือกไม่มากแล้ว บอกยุบสภาก็ไม่เกิดประโยชน์ กองทัพต้องเป็นตัวกลางเจรจา หวั่นเหตุการณ์บานปลายเกิดสงครามกลางเมือง

            วันนี้ (2 ธันวาคม 2556) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ได้นำเสนอความเห็นจากนักวิชาการเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง ก่อนที่นายสุเทพจะได้เข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อหน้าผู้บัญชาการเหล่าทัพต่าง ๆ โดยทางด้าน อ.ชัยยันต์ ไชยพร จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ตนเคยให้ความเห็นไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า นายกฯ ควรจะยุบสภา แต่ขณะนี้สถานการณ์ได้ล่วงเลยจุดนั้นมาแล้ว แต่ขอยืนยันว่าควรยุบสภาและลาออกเพื่อเป็นการบอกว่ารัฐบาลได้ถอยแล้ว ซึ่งรัฐบาลก็จะยังมีความชอบธรรมในการทำหน้าที่รัฐบาลรักษาการ

            อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าแนวทางนั้นได้ปิดประตูไปแล้วหลังคำแถลงการณ์ของนายสุเทพ และต่อไปคำแนะนำต่าง ๆ ของนักวิชาการก็จะหมดความสำคัญแล้ว เพราะมันเข้าสู่การต่อสู้ด้วยกำลังแล้ว เงื่อนไขใกล้เข้าสู่สงครามกลางเมืองเข้ามาแล้ว ถ้าจะป้องกันความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป คนที่จะเป็นตัวกลางได้คือกองทัพเท่านั้น กองทัพต้องเป็นเจ้าภาพในการพูดคุยทั้ง 2 ฝ่าย และจะส่งผลดีกว่าปล่อยให้สถานการณ์บานปลายไปจนถึงสงครามกลางเมือง กองทัพต้องจัดการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ สิ่งที่วิตกก็คือ กองทัพจะแตกแยกกันหรือไม่ ซึ่งตรงนี้เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญที่จะนำไปสู่สงครามกลางเมือง

            ขณะที่ ศ.นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ ผู้ทรงคุณวุฒิสถาบันพระปกเกล้า นักสันติวิธีชื่อดัง กล่าวว่า โดยหลักแล้วตัวแทนการพูดคุยเจรจาของแต่ละฝ่ายต้องเป็นคณะบุคคลที่ทั้ง 2 ฝ่ายไว้วางใจ เพราะทั้ง 2 ฝ่ายสามารถสื่อสารได้โดยตรง ส่วนทางออกของการเจรจายังเป็นไปได้หรือไม่นั้น เป็นไปได้ตลอดเวลา แต่ถ้าหากเข้าสู่กระบวนการเจรจาแล้วยกมือโหวตตัดสินเอาแพ้เอาชนะกัน อย่างนั้นก็จะไม่ใช่การเจรจา เรื่องแบบนี้ทหารอาจจะไม่ถนัดก็ได้ เพราะไม่เคยฝึกซ้อม ร่ำเรียน ปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องนี้โดยตรง

            การให้ความสำคัญกับบทบาทรัฐบาลในฐานะผู้มีอำนาจ ในทฤษฎีแก้ไขความขัดแย้งนั้น ผู้มีอำนาจจำเป็นต้องฟังอย่างตั้งใจและเข้าใจ ถ้าจะเจรจาต้องไม่ใช้ความรุนแรง ไม่มีการสลายการชุมนุม เพราะการสลายการชุมนุมไม่ใช่สันติวิธี หากยังยึดสันติวิธีก็มีอย่างเดียวคือ ผู้มีอำนาจต้องฟังแล้วนำมาวิเคราะห์ว่าผู้ชุมนุมต้องการอะไร แล้วจะได้พูดคุยกันต่อไป

            ส่วน อาจารย์วันวิชิต บุญโปร่ง จากภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า บริบทสถานการณ์ทางการเมืองไทยยังไม่ถึงจุดที่ประชาชนจะปฏิรูปการเมืองได้ เพราะฉะนั้นกองทัพต้องแสดงบทบาทโดยเข้าไปเป็นผู้เจรจาแทนทั้ง 2 ฝ่าย เนื่องจากต่างฝ่ายต่างขาดความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน สถานการณ์ที่บานปลายจนถึงปัจจุบันต้องยอมรับว่าเป็นเพราะอารมณ์ล้วน ๆ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันจริง ๆ

            อย่างไรก็ตาม ตนไม่เห็นด้วยที่จะยุบสภาในขณะนี้เพราะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรมากนัก ฉะนั้นกองทัพต้องเข้ามามีบทบาทควบคุม ทำข้อตกลงกติการ่วมกันก่อนนำไปสู่การเลือกตั้ง และแกนนำมวลชนแต่ละฝ่ายต้องออกไปให้ความรู้กับประชาชน จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการที่ตกลงกันไว้ สุดท้ายเมื่อใครชนะต้องยอมรับผลนั้น สถานการณ์ตอนนี้ถือว่าเป็นบทเรียน และต้องหาทางออกร่วมกัน ขณะนี้นายสุเทพ แกนนำผู้ชุมนุมมีความได้เปรียบในการเจรจาแล้ว

            การเมืองไทยเวลานี้ต้องยอมรับแล้วว่า จะเดินอย่างไรก็ต้องขัดแย้ง บทบาทของทหารจะเข้ามาเป็นผู้เล่นหน้าเดิม แต่เปลี่ยนวิธีการเล่นใหม่ สังคมไทยยังให้ความเคารพกับบุคคลที่มีอำนาจนำ ส่วนข้อเสนอที่มีการตั้งสภาประชาชนนั้น ต้องให้ความเคารพทุกฝ่ายอย่างแท้จริงก่อนแล้วนำมาพูดคุยกันทุกภาคส่วนบทโต๊ะเจรจา โดยทหารต้องออกมาเป็นตัวกลางเจรจา











เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นักวิชาการย้ำ กองทัพต้องเป็นตัวกลางเจรจา หวั่นเกิดสงครามกลางเมือง อัปเดตล่าสุด 2 ธันวาคม 2556 เวลา 14:05:10 10,399 อ่าน
TOP