x close

สุเทพ สั่งจับยิ่งลักษณ์ ข้อหากบฏ-จี้ถอน ตร. กลับที่ตั้งใน 12 ชม.


สุเทพ ชี้รัฐบาลไม่มีอำนาจรักษาการ หลังปฏิเสธอำนาจศาล รธน.

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก @SpringNews_TV

          สุเทพ เทือกสุบรรณ สั่งจับยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ข้อหากบฏ หลังกระทำการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ พร้อมขีดเส้นตายให้ตำรวจสั่งถอนกำลังพลภายใน 12 ชั่วโมง

          วันนี้ (10 ธันวาคม 2556) เมื่อเวลา 19.15 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ขึ้นเวทีนางเลิ้งประกาศคืนนี้ จะขอขึ้นเวที 3 รอบ ดังนี้

            รอบที่ 1 คือ เวลา 19.15 น. เพื่ออ่านประกาศ กปปส. ฉบับที่ 1/2556

            รอบที่ 2 คือ เวลา 20.30 น. เพื่อปราศัยรายละเอียดต่าง ๆ ของ กปปส.

            รอบที่ 3 คือ เวลา 22.30 น. เพื่อ อ่านคำสั่ง กปปส. หลังครบเวลา 24 ชั่วโมง ที่กำหนดให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี

          นอกจากนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้อ่านประกาศ กปปส. ฉบับที่ 1/2556 เรื่องความเป็นโมฆะของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เนื่องจากปฏิเสธตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ กรณีแก้ไขที่มา ส.ว. และประกาศยุบสภา โดยยังไม่ได้นำความขึ้นกราบบังคมทูล เป็นการละเมิดพระราชอำนาจ ประกอบกับการที่รัฐบาลได้มีการประกาศไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้รัฐบาลเป็นโมฆะ หมดอำนาจในการบริหารประเทศตั้งแต่ยังไม่มีการประกาศยุบสภาแล้ว ดังนั้น รัฐบาลจึงหมดอำนาจรักษาการไปด้วย

          เมื่อรัฐบาลหมดอำนาจรักษาการ ส่งผลให้ประเทศไทยตกอยู่ในภาวะสูญญากาศ จึงต้องอาศัยอำนาจประชาชนในการเลือกนายกรัฐมนตรีขึ้นมาใหม่ โดยนายกรัฐมนตรีคนนี้ ต้องเป็นคนที่ประชาชนทั้งประเทศยอมรับด้วย

          สำหรับรายละเอียดของประกาศคณะกรรมการ กปปส. ฉบับที่ 1/2556 มีรายละเอียด ดังนี้

          ประกาศคณะกรรมการ กปปส. ฉบับที่ 1/2556

          เรื่อง ความเป็นโมฆะของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี

      
          ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ความว่า "ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่มาของ ส.ว.มีสาระสำคัญขัดแย้งต่อหลักการพื้นฐาน และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 อันเป็นการทำให้ผู้ที่ถูกร้องได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ ด้วยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง ซึ่งภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยแล้วนั้น หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอื่น ๆ ซึ่งเป็นผู้แทนคณะรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสมาชิก ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งดังกล่าว ได้แถลงไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบกับการที่นายกรัฐมนตรีได้นำร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อให้พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย ทั้งที่เป็นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่มีเนื้อหาและกระบวนการแก้ไขไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 216 วรรคห้า ที่บัญญัติให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอื่นของรัฐ ให้ต้องปฏิบัติตามเป็นเด็ดขาด และต่อมา เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร โดยยังมิได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทรงตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร อันมาตรา 108 บัญญัติให้เป็นพระราชอำนาจ นับเป็นการกระทำอันล่วงละเมิดพระราชอำนาจอย่างชัดแจ้งที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งยังเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญซ้ำแล้วซ้ำอีก ดังปรากฏตามแถลงการณ์ของสภาทนายความ การกระทำทั้งหลายดังกล่าวข้างต้น ถือได้ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมกันจงใจกระทำการละเมิดรัฐธรรมนูญโดยไม่สุจริต และตั้งต้นอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้รัฐบาลชุดนี้ตกเป็นโมฆะนับตั้งแต่วันที่ประกาศไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญ เนื่องจากการกระทำที่เป็นการจงใจละเมิดรัฐธรรมนูญ โดยไม่สุจริตดังกล่าว มีความร้ายแรงถึงขนาดที่ไม่อาจจะให้รัฐบาลชุดนี้ใช้อำนาจในนามของประชาชนได้อีกต่อไป
      
          ดังนั้น แม้นายกรัฐมนตรีจะได้มีการประกาศยุบสภาไปแล้วก็ตาม ก็ไม่ส่งผลให้รัฐบาลที่สิ้นสภาพไปแล้วรักษาการต่อไปได้ เมื่อกรณีเป็นไปตามความดังกล่าวข้างต้น จึงถือได้ว่าเวลานี้ ประเทศไทยตกอยู่ในสภาวะสูญญากาศ เนื่องจากไม่มีนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีอีกต่อไปแล้ว จึงชอบที่จะต้องมีการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 โดยการจัดให้มีนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนทั้งประเทศยอมรับ เพื่อดำเนินการปฏิรูปประเทศไทยตามเจตจำนงของมวลมหาประชาชนต่อไป
      
          ทั้งนี้ ขอให้มวลมหาประชาชนได้มั่นใจกับหลักการประชาภิวัฒน์ ด้วยวิธีสงบ สันติ อหิงสาต่อไป และศรัทธาเชื่อมั่นในความเป็นรัฏฐาธิปัตย์แห่งมวลมหาประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง และได้ทวงคืนกลับมาไว้ได้โดยสิ้นเชิง และพร้อมที่จะประชาภิวัฒน์ประเทศไทยโดยเร็วต่อไป
      
          ประกาศ ณ วันที่ 10 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2556
      
          ลงชื่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
          เลขาธิการคณะกรรมการ กปปส.

สุเทพ เทือกสุบรรณ ปราศรัยรอบ 2 เวลาประมาณ 20.15 น.

          ต่อมา ในเวลาประมาณ 20.15 น. นายสุเทพ ได้ขึ้นปราศรัยเป็นครั้งที่ 2 ว่า การที่ตนบอกให้นางสาวยิ่งลักษณ์ออกไปนั้น ไม่ได้หมายความว่า เนรเทศตระกูลชินวัตร แต่เป็นการให้นางสาวยิ่งลักษณ์ออกจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี จากนั้นประชาชนจะเลือกนายกฯ ที่เป็นที่ยอมรับ แล้วก็คืนอำนาจกลับสู่ประชาชนอีกครั้ง ทั้งนี้ การแต่งตั้งนายกฯ รักษาการทำได้ เหมือนกรณีปี 2516 ที่จอมพลถนอม กิตติขจร เลือกที่จะไม่รักษาการ ทำให้ประธานสภาฯ ตั้งนายสัญญา ธรรมศักดิ์ มาแก้วิกฤต

          ทั้งนี้ ตนจะให้เวลานางสาวยิ่งลักษณ์ 3 วันในการตัดสินใจ หากยังนิ่งเฉย คนในตระกูลชินวัตรจะไม่มีความสุขตลอดไป และภายหลังจาก 22.30 น. คืนนี้ หากนางสาวยิ่งลักษณ์ยังไม่ตัดสินใจลาออก ตนจะยกระดับทำให้คนในตระกูลชินวัตรทนไม่ได้ไปเอง และถ้าหากคืนนี้นายกฯ ลาออก และให้รองประธานวุฒิสภา เสนอชื่อนายกฯ ผู้ชุมนุมจะกลับบ้านทันที

สุเทพ เทือกสุบรรณ ปราศรัยรอบ 3 เวลาประมาณ 22.30 น.

          สุเทพ เทือกสุบรรณ ออกแถลงคำสั่ง กปปส. ขอให้ดำเนินคดียิ่งลักษณ์ข้อหากบฏ สั่งตำรวจถอนกำลังใน 12 ชั่วโมง ให้ทหารดูแลสถานที่ราชการ พร้อมขอให้ประชาชนติดตามความเคลื่อนไหวคนตระกูลชินวัตรอย่างใกล้ชิด

          เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ขึ้นเวทีรอบที่ 3 เพื่ออ่าน คำสั่ง กปปส. ฉบับที่ 2/2556 หลังครบกำหนดเวลาที่ให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีแล้ว โดยระบุว่า ตามคำสั่ง กปปส. ฉบับที่ 2/2556

          1. ขอให้ดำเนินคดียิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับพวก ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 113 ข้อหากบฏ เพราะจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ

          2. ขอให้ ผบ.ตร. สั่งให้ตำรวจกลับไปยังที่ตั้งปกติ ภายใน 12 ชั่วโมง

          3. ขอให้ทหารปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย และดูแลสถานที่ราชการให้เรียบร้อยต่อไป

          4. ขอให้ประชาชนติดตามความเคลื่อนไหวของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคนในตระกูลชินวัตร ตลอดจนคณะรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด และขอให้แสดงออกต่อกลุ่มบุคคลเหล่านี้อย่างสันติ





อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สุเทพ สั่งจับยิ่งลักษณ์ ข้อหากบฏ-จี้ถอน ตร. กลับที่ตั้งใน 12 ชม. อัปเดตล่าสุด 10 ธันวาคม 2556 เวลา 23:41:44 76,890 อ่าน
TOP