เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เตรียมตั้งข้อหา สมบัติ ธำรงธัญญวงศ์, จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี, เสรี วงศ์มณฑา แกนนำกปปส. ในข้อหากบฏเพิ่ม
วันนี้ (19 ธันวาคม 2556) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพวก รวมทั้งอายัดทรัพย์สินแกนนำและผู้สนับสนุนการชุมนุม กปปส.ทั้ง 18 ราย ว่า ได้ทำหนังสือแจ้งธนาคารพาณิชย์ทั้ง 30 แห่ง ให้ตรวจสอบบัญชีของแกนนำทั้ง 18 คน ว่ามีบัญชีประเภทใด จำนวนเท่าใด แล้วจัดส่งสำเนาบัญชีย้อนหลัง เป็นเวลา 6 เดือน ให้ดีเอสไอโดยด่วน และให้อายัดบัญชีทุกบัญชี ซึ่งรวมถึงบัญชีครัวราชดำเนิน จำนวน 2 บัญชี ของธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาราชดำเนินด้วย
นายธาริต กล่าวต่อว่า ยังไม่มั่นใจว่าการอายัดบัญชีของแกนนำม็อบจะสามารถหยุดยั้งการกระทำความผิดได้หรือไม่ และได้ลงนามออกหมายเรียกไปยังแกนนำทั้ง 17 คน ให้มารับทราบข้อกล่าวหา ในวันที่ 26-27 ธันวาคม 2556 โดยเจ้าหน้าที่ของดีเอสไอได้ดำเนินการส่งหมายให้มีผลตามกฎหมายแบบคู่ขนานทั้ง 2 วิธี คือ ให้ตำรวจที่ประจำโรงพักอันเป็นภูมิลำเนาของแกนนำไปส่งหมายเรียก และส่งหมายเรียกทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับอีกทางหนึ่งด้วย สำหรับการขยายผลทางคดีนั้น ในวันที่ 23 ธันวาคม 2556 นี้ ได้มีการเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวน เพื่อร่วมกันพิจารณาพยานหลักฐานแล้วมีมติให้ดำเนินคดีกับแกนนำเพิ่มเติมอีกประมาณ 20 30 คน โดยเฉพาะแกนนำที่ขึ้นอภิปรายในลักษณะผิดกฎหมาย แกนนำที่นำกลุ่มคนไปบุกยึดสถานที่ราชการต่าง ๆ
ทั้งนี้ แกนนำที่คาดว่าจะถูกออกหมายเรียก มารับทราบข้อหากบฏ ชุดที่ 2 ประกอบด้วย นายสมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ อดีตคณบดีมหาวิทยาลัยนิด้า น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ที่เป็นแกนนําใช้รถแทรคเตอร์บุกรื้อแนวแบริเออร์บุกเข้า บช.น. และ นายเสรี วงศ์มณฑา ซึ่งขึ้นปราศรัยบนเวทีในลักษณะปลุกเร้าให้ประชาชนกระทำความผิด และมีบทบาทเป็นแกนนำมวลชนไปปิดล้อมในสถานที่ต่าง ๆ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
