เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์
พบซากกระทิงตายเป็นตัวที่ 8 ที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยสภาพซากกระทิงนั้นสมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยการถูกล่าหรือทำร้าย คาดน่าจะได้รับสารพิษจากแหล่งน้ำ
วานนี้ (20 ธันวาคม 2556) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจบคีรีขันธ์ ได้สนธิกำลังสัตว์แพทย์จากสำนักงานปศุสัตว์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทหาร และชาวบ้านรวม 40 คน แบ่งกำลังออกตรวจสอบพื้นที่ในโครงการพระราชดำริป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี หลังจากที่พบซากกระทิงตายในพื้นที่ติดต่อกันในช่วง 15 วันที่ผ่านมา โดยล่าสุดตัวที่พบเป็นตัวที่ 8 แล้ว
ทั้งนี้ ทางด้านสัตวแพทย์สาโรจน์ จันทร์ลาด กล่าวหลังจากตรวจสอบซากกระทิงว่า สภาพซากกระทิงที่ตายส่วนใหญ่มีร่างกายที่สมบูรณ์ น้ำหนักกว่า 1,500 กิโลกรัมขึ้นไป และทุกตัวก็ไม่พบบาดแผลว่าถูกทำร้ายแต่อย่างใด ซึ่งเป็นการตายในลักษณะฉับพลัน โดยเบื้องต้นสันนิษฐานได้ว่า กระทิงอาจจะได้รับสารพิษจากแหล่งน้ำในพื้นที่ใกล้เคียง
ขณะที่ นายวัฒนา พรประเสริฐ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี พร้อมด้วย นายปรีชา วิทยพันธุ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี รวมทั้งนายสัตวแพทย์ประจำสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทหาร ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน ได้ช่วยกันเก็บตัวอย่างน้ำตามจุดต่าง ๆ รวม 10 จุด ในพื้นที่โครงการฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมากจาพระราชดำริ จำนวน 24 ขวด ขวดละ 1,500 ซี รวมไปถึงดินโป่ง ถุงยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้าชนิดต่าง ๆ ที่ใช้ในการปลูกพืชผลทางการเกษตรที่อยู่ติดกับพื้นที่โครงการพระราชดำริ และอุทยานแห่งชาติกุยบุรี
นอกจากนี้ ยังต้องเก็บตัวอย่างเลือดของวัวชาวบ้านในพื้นที่ที่พบว่าป่วย 13 ตัว นำส่งอย่างเร่งด่วนที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุการตายของกระทิง 8 ตัว ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าผลน่าจะออกก่อนปีใหม่
ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ต้องจัดเจ้าหน้าที่ออกป้องกันไม่ให้ช้างป่าและกระทิง ตลอดจนสัตว์อื่นๆ เข้ามาใช้แหล่งน้ำที่คาดว่า ทำให้กระทิงเสียชีวิต อย่างไรก็ดี กระทิงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี มีอยู่มากกว่า 150 ตัว และยังมีลูกกระทิงเกิดใหม่อีกเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันกลับพบว่าฝูงกระทิง โดยเฉพาะบริเวณจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถพบฝูงกระทิงได้ง่าย กลับไม่มีให้เห็นเหมือนเดิม จึงต้องมีการสำรวจและตรวจสอบสาเหตุใดที่ทำให้ฝูงกระทิงดังกล่าวหายไปทั้งหมด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
