เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจาก TAN HONDA / AFP
ผู้ประท้วงชาวอินเดียได้บุกทำลายร้านโดมิโนส์ พิซซ่า ของสหรัฐฯ ในนครมุมไบ พร้อมเรียกร้องอินเดีนให้แบนสินค้าอเมริกัน หลังนักการทูตหญิงอินเดียถูกจับและแก้ผ้าตรวจค้น
วันที่ 21 ธันวาคม 2556 สำนักข่าวรอยเตอร์ส มีรายงานว่า ผู้ประท้วงชาวอินเดียได้บุกทำลายร้านโดมิโนส์ พิซซ่า สาขาชานเมือง นครมุมไบ วานนี้ (20 ธันวาคม) พร้อมเรียกร้องให้ชาวอินเดียหันมาแบนสินค้าของสหรัฐฯ ขณะที่เจ้าหน้าที่จากสองชาติกำลังพยายามลดความขัดแย้งในกรณีนักการทูตหญิงอินเดียถูกจับและเปลื้องผ้าค้นตัวในนิวยอร์ก สหรัฐฯ
ด้านตำรวจและบริษัทธุรกิจแฟนไชนส์สหรัฐฯ ประจำอินเดีย เผยว่า ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุจู่โจมดังกล่าว ที่เกิดขึ้นท่ามกลางความขุ่นเคืองที่ลุกลามไปทั่วในอินเดีย อันเนื่องมาจากกรณีที่ เทพยานี โคพระเกตุ นักการทูตหญิงของอินเดียถูกตำรวจสหรัฐฯ จับกุมและเปลื้องผ้าค้นตัวในนิวยอร์ก ด้วยข้อหาปลอมแปลงเอกสารขอวีซ่า และจ่ายค่าแรงให้แม่บ้านชาวอินเดียต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ในขณะที่พ่อของเธอก็ได้ขู่ว่าจะเริ่มอดอาหารประท้วงหากว่าทางสหรัฐฯ ยังเดินหน้าฟ้องร้องลูกสาวในคดีนี้
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจมุมไบก็ได้มีการยกระดับการตรวจตราตามห้างร้านต่าง ๆ ของสหรัฐฯ แล้ว รวมถึงร้านแม็คโดนัลด์ หลังจากเกิดเหตุโจมตีดังกล่าว ขณะที่ มานิช ทิวารี รัฐมนตรีข้อมูลข่าวสารและการออกอากาศของอินเดีย เผยว่า ข้อเท็จจริงคือ เจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันได้ปฏิบัติอย่างเลวทรามต่อนักการทูตอินเดีย และไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาควรมีพฤติกรรมที่ดีกว่านี้ พวกเขาทำผิดพลาดอย่างเลวร้ายในเรื่องนี้และพวกเขาก็ควรก้าวออกมาเอ่ยปากขอโทษ
นอกจากนี้อินเดียยังมีความพยายามอย่างชัดเจนในการการทางแก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยการยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการ เพื่อขอให้สหประชาชาติแต่งตั้งให้ เทพยานี โคพระเกตุ เป็น 1 ในคณะผู้แทนถาวรของอินเดียประจำยูเอ็น เพื่อให้เธอได้รับเอกสิทธิ์คุ้มกันทางการทูตอย่างเต็มรูปแบบ
อย่างไรก็ตาม เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในสถานะของนักการทูต ก็ไม่สามารถลบล้างข้อกล่าวหาในอดีตได้ และเขายังบ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถามว่าสหรัฐฯ จะขอโทษอินเดียต่อเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ด้วย โดยเพียงแค่ย้ำถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกาและอินเดียเท่านั้น
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้พยายามยุติข้อขัดแย้งด้วยการโทรศัพท์สายตรงถึง ชีพจันกา เมนอน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งอินเดีย เพื่อแสดงความเสียใจและย้ำถึงความกังวลว่าไม่ควรให้ประเด็นนี้ทำลายความสัมพันธ์อันสำคัญระหว่างสองชาติ อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีกิจการรัฐสภา บอกว่า "แค่คำเสียใจเฉย ๆ ไม่ทำให้เราพอใจหรอก พวกเขาต้องแสดงการขอโทษอย่างชัดเจนและยอมรับต่อสิ่งที่ทำผิดไปเสียก่อน เมื่อถึงตอนนั้นเราถึงจะพอใจ"
ทั้งนี้ เทพยานี โคพระเกตุ ถูกจับกุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและได้รับการประกันตัวในวงเงิน 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมมีเงื่อนไขส่งมอบพาสปอร์ต หลังจากเธอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการจ่ายค่าตอบแทนให้แรงงานในบ้านต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ และปลอมแปลงตัวเลขเงินเดือนของลูกจ้างคนดังกล่าวเพื่อขอวีซ่าทำงาน และหากถูกพิพากษาว่ามีความผิดจริง เธออาจจะต้องโทษจำคุกสูงสุดนานถึง 15 ปีเลยทีเดียว
