เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สุเทพ จ่อประกาศกระชับพื้นที่ เข้าประชิดตัวนายกฯ เจอที่ไหนไล่ที่นั่น วอนมวลชนเห็นใจสื่อภาคสนาม บอกว่านายใหญ่บงการ ขณะที่การรับสมัครเลือกตั้งในวันนี้ส่อมีพิรุธ เพราะประกาศให้ลงสมัคร 8 โมง แต่กลับมีผู้สมัครถึง 8 พรรค ตอน ตี 3
วันนี้ (23 ธันวาคม 2556) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยที่เวทีราชดำเนิน โดยระบุว่า ตนเองรู้สึกโกรธ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากกรณีที่มาสั่งสอนประชาชนให้รู้จักเคารพรัฐธรรมนูญ เคารพกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งตนฟังแล้วรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที เพราะถ้าคนที่มาสั่งสอนเป็นคนดีมีศีลธรรม ประพฤติตัวดี ตนก็ยินดีที่จะฟัง เพราะพวกเราไม่ได้ดื้อด้านอะไร แต่ที่นางสาวยิ่งลักษณ์กล้ามาอบรมโดยไม่ดูคุณสมบัติของตัวเองเลยว่าทำชั่วทำเลวมาก่อน จริง ๆ แล้ว นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่สามารถสอนใครได้ ทั้งนี้เราไม่ได้พูดถึงความประพฤติส่วนตัว แต่เราพูดถึงการประพฤติทางการเมือง ซึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย ส.ส. ประธานสภา รองประธานสภา ได้ประกาศต่อสาธารณชนแล้วว่า ไม่รับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นั่นหมายความว่านางสาวยิ่งลักษณ์และพวก ประกาศไม่เคารพกฎหมายรัฐธรรมนูญ เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ตัวเองไม่มีสิทธิที่จะไปสั่งสอนประชาชนให้เคารพรัฐธรรมนูญ ตนรู้สึกไม่พอใจจริง ๆ ที่นางสาวยิ่งลักษณ์มาสอน ต้องเรียกว่าสะเออะมาสอนประชาชนด้วยซ้ำไป
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ตนก็ต้องการให้ประชาชนไปเลือกตั้งและยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย แต่พวกเราต้องการเลือกตั้งด้วยระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ซึ่งที่เป็นอยู่มันบกพร่อง เพราะมีช่องทางทุจริต มีการโกงการเลือกตั้ง พวกเราจึงจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นวงจรอุบาทว์ทำลายประเทศชาติของเราต่อไป
"พี่น้องทั้งหลาย เขาจะฟังไม่รู้เรื่องหรือรู้เรื่อแล้วแกล้งเป็นไม่รู้ ก็เรื่องของเขา ส่วนเรื่องของเราคือต้องยืนยันในเจตนารมณ์ ปฏิรูปประเทศไทยให้เสร็จสิ้นด้วยมือของประชาชน ให้การเลือกตั้งเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตยต่อไป ต่อจากนี้เราจะไม่ถกเถียงเรื่องกฎหมายกันอีก เราประกาศอย่างชัดเจนว่าต้องการเปลี่ยนบ้านเมืองให้เป็นไปในทิศทางดีขึ้น นั่นก็คือการปฏิรูปประชาธิปไตยให้สมบูรณ์ ป้องกันคนชั่วไม่ให้มีอำนาจในบ้านเมือง เราไม่สนว่าจะถูกหรือผิดกฎหมาย เพราะเราคือประชาชน เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย อำนาจสูงสุดในการปกครองบ้านเมือง ที่เขียนไว้ชัดเจนใน ม.3 เราจะยึดตรงนี้"
นายสุเทพ ยังกล่าวต่อว่า คนพวกนี้มันคิดว่ารู้มากกว่าประชาชน ใบปริญญายาวเหยียดและมาพูดถึงข้อกฎหมายมากมาย ซึ่งไม่ต้องไปเสียเวลาเถียง เพราะพวกเราจะเดินของเราแบบนี้ต่อไป จะเดินไปด้วยใจบริสุทธิ์ ใจที่รักชาติรักแผ่นดิน ไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับประเทศ
สำหรับการรับสมัครเลือกตั้งในวันนี้ ประชาชนต้องไปทนนอนบนถนนที่หน้าสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ซึ่งจะเปิดรับสมัครเวลา 8.00 น. แต่กลับกลายเป็นว่ามีรายชื่อ 8 พรรคการเมืองเข้าไปสมัครก่อนเวลาตี 3 ตี 4 แบบนี้ ทั้ง ๆ ที่กำหนดการก็ระบุชัด นี่ยังไม่เกิดการเลือกตั้งแค่ลงรับสมัครก็เห็นถึงอะไรที่ส่อถึงความพิรุธแล้ว นอกจากนี้ ผอ.กกต. ยังออกมาตรวจใบรับสมัครถึง สน.ดินแดง ตนก็ไม่ทราบว่าไปที่นั่นทำไม เพราะที่นั้นไม่ใช่สถานที่รับสมัครเลือกตั้ง แต่เป็นสถานีตำรวจ...ขนาดประชาชนปิดล้อมอยู่อย่างนี้ยังมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น แล้วลับหลังจะไม่ยิ่งกว่านี้เหรอ
นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังกล่าวในส่วนของสื่อมวลชนภาคสนามว่า อยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมทำความเข้าใจกับผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนด้วย พวกเขามาทำงาน ซึ่งจริง ๆ แล้วในใจของเขาก็คิดแบบพวกเรา เขาทำเสนอข่าวไปถูกต้องแล้ว แต่พอเข้าไปในสำนักงานใหญ่ เนื้อข่าวก็ถูกบิดเบือน เพราะเจ้าของสำนักถูกครอบงำ จึงอยากจะให้พี่น้องที่มาอารมณ์ต้องแยกแยะให้ออก ถ้าอยากด่าให้โทรศัพท์ไปด่าที่สำนักงาน ไม่ก็ฝากให้ตนด่าให้ จะได้ไม่เปลืองแรงพี่น้อง
ส่วนการแจ้งข้อหาอื่น ๆ พวกเราไม่เดือดร้อน เพราะข้อกบฏถือว่ารุนแรงที่สุดแล้ว เรื่องนี้เราต้องเดินหน้าต่อเราจะแพ้ไม่ได้ ต้องมีแต่คำว่าชนะอย่างเดียว ถ้าแพ้ก็เป็นขี้ข้าระบอบทักษิณ ซึ่งตนคิดว่าติดคุกยังสบายใจกว่าเป็นขี้ข้าทักษิณ แต่ถ้าชนะก็จะได้บอกลูกหลานว่าชาตินี้ได้ทดแทนคุณแผ่นดินแล้ว สามารถตายตาหลับโดยไม่ถูกใครสาปแช่ง ในส่วนข้าราชการทั้งหลาย เห็นมวลชนออกมาเยอะขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องรออีกกี่วัน ต้องรอมวลชนอีกกี่ล้านคน หรือท่านต้องการเห็นมวลชนเท่าไรก็จะทำให้ดู เมื่อไรท่านจะออกมายืนข้างประชาชนบ้านเมืองจะได้สงบเสียที
ท้ายนี้ นายสุเทพ ได้ฝากบอกถึงนายกฯ ว่าเมื่อวานนี้ที่เดินทางไปบ้านนายกฯ ทั้ง ๆ ที่นายกฯ ไม่อยู่นั้น ไม่ใช่ไม่รู้ เพียงแต่อยากให้นายกฯ เห็นว่าประชาชนไม่เห็นด้วย และอยากไล่นายกฯ ให้ออกจากรักษาการ และต่อไปก็จะไม่ไล่แค่บ้านตรงนี้ บ้านอื่นที่อยู่กับใคร เราก็ไปถูก เราขอบอกคุณไว้ด้วย
เราจะให้เวลานายกฯ ตัดสินใจ ต่อจากนี้อาจจะยกระดับถ้าเจอนายกฯ ที่ไหน ก็จะไล่เมื่อนั้น จะกระชับพื้นที่ในการเข้าประชิดตัว และอย่ามาโทษประชาชน เพราะนายกฯ บังคับให้ประชาชนทำอย่างนี้ ตื่นเช้ามานายกฯ ก็จะเจอประชาชน ไปไหนทำอะไร นายกฯ ก็จะเจอประชาชนทุกที