เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก scallywagandvagabond.com, cityrealty.com
มหาเศรษฐีผู้ใจบุญตัดสินใจกระโดดตึกฆ่าตัวตาย บริจาคเงินทั้งหมดที่มีร่วม 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.2 พันล้านบาท) ให้แก่มูลนิธิต่าง ๆ หลังป่วยโรคสมองขาดเลือดนานหลายเดือน
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2556 เว็บไซต์นิวส์ของออสเตรเลีย มีรายงานว่า โรเบิร์ท ดับเบิลยู วิลสัน วัย 86 ปี มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ ได้ตัดสินใจกระโดดตึกฆ่าตัวตาย หลังบริจาคเงินทั้งหมดที่มีร่วม 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.2 พันล้านบาท) ให้แก่มูลนิธิต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่คาดว่าการตัดสินใจฆ่าตัวตายของเขาอาจสืบเนื่องมาจากความทรมานของโรคสมองขาดเลือด
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เผยว่า ในเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โรเบิร์ทได้เสียชีวิตหลังกระโดดลงมาจากห้องพักชั้น 16 บนอาคารอัพเพอร์ เวสต์ ไซด์ อพาร์ทเม้นท์สุดหรูในกรุงนิวยอร์ก สหรัฐฯ และในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ก็พบว่าหน้าต่างของอพาร์ทเม้นท์นั้นถูกเปิดทิ้งไว้ และการเสียชีวิตของเขาก็ไม่มีเงื่อนงำใด ๆ อีกทั้งยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่าโรเบิร์ทได้ป่วยเป็นโรคสมองขาดเลือดมาหลายเดือนแล้ว
อาคารอัพเพอร์ เวสต์ ไซด์ อพาร์ทเม้นท์สุดหรูในกรุงนิวยอร์ก สหรัฐฯ
ด้าน สเตเฟน วิสคุซ เพื่อนของโรเบิร์ท เผยว่า โรเบิร์ทมักจะบ่นให้เขาฟังบ่อย ๆ ว่าไม่อยากจะทรมานอีกต่อไป และเขาพร้อมที่จะไปเมื่อถึงเวลา
ทั้งนี้ ก่อนเสียชีวิต โรเบิร์ทได้บริจาคเงิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.26 พันล้านบาท) ในแก่มูลนิธิ World Monuments Fund , the Nature Conservancy, the Environmental Defense Fund และ the Wildlife Conservation Society โดย โบรนี่ บรูนแฮม ประธานมูลนิธิ World Monuments Fund เผยว่า โรเบิร์ทนั้นไม่เพียงแค่บริจาคเงินของเขาเท่านั้น แต่ยังนำพาความคิดอันชาญฉลาดและสติปัญญาแหลมคมมาสู่องค์กรด้วย เขาจะเป็นที่คิดถึงอย่างมาก และจะถูกจดจำไปนานเท่านานในฐานะผู้บริจาคที่มีวิสัยทัศน์