เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก เกาะติดฅนกู้ภัย(ลั่นล้า18+), รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ LAKORNHD Thaitv (Official) สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ประจักษ์ มาแสวง ถูกส่งตัวกลับมาฝากขังที่ ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งเป็นคดีแรกก่อน จากนั้นจึงดำเนินคดีที่พัทยาต่อ หลังพาตัวไปทำแผนฆ่าโหด 3 ศพ ที่หนองปรือ จ.ชลบุรี จนเจอชาวบ้านสาปแช่ง และรุมประชาทัณฑ์ยับ
จากกรณีที่ นายประจักษ์ มาแสวง หรือ อ๊อฟ ผู้ต้องหาฆ่าโหด 3 ศพ ได้เข้ามอบตัว โดยสารภาพว่าสาเหตุที่ก่อเหตุดังกล่าวเนื่องจากโมโหที่ถูกผู้ตายซึ่งเป็นพี่เลี้ยงเด็กด่าเรื่องบุกเข้าบ้านกลางดึก แถมเด็กยังส่งเสียงร้อง จึงตัดสินใจฆ่าทั้งหมด ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น
ล่าสุดวันนี้ (14 มกราคม 2557) พ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ ผกก.สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า หลังจากมีการนำตัว นายประจักษ์ มาแสวง หรือ ออฟ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาฆาตกรโหดฆ่า 3 ศพ มาจากศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อมาทำแผนในบ้านที่เกิดเหตุ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งคืนศาลจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว เพื่อให้ดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่า เป็นคดีแรกก่อน เพราะผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวที่ จ.กาญจนบุรี
ทั้งนี้หลังจากดำเนินคดีแรกแล้ว ก็จะนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดพัทยา ซึ่งกำลังเร่งสรุปสำนวนคดี คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
โดย นายประจักษ์ สารภาพด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ไม่แสดงอาการสะทกสะท้านว่า สาเหตุที่ทำไปเพราะความโมโห เนื่องจากแม่ของเด็กที่เสียชีวิตพาแฟนสาวของตนไปทำงานแล้วกลับดึก นัดกันให้มารับที่บ้านหลังเกิดเหตุตอนเที่ยงคืน ตนรอนานมากจึงติดต่อพี่เลี้ยงเด็กซึ่งอยู่ในบ้านให้ช่วยโทรศัพท์หาแฟนให้ แต่พี่เลี้ยงไม่ยอมโทรจึงโมโห เดินไปเอามีดในห้องครัวแทงพี่เลี้ยงเด็กจนเสียชีวิต ส่วนเด็กสองคนเห็นเหตุการณ์ คนพี่วิ่งมาชกตน ตนจึงใช้มีดแทง ส่วนคนน้องร้องไห้เสียงดังจึงคว้าผ้าที่อยู่ใกล้มือรัดคอจนเสียชีวิตเพราะกลัวชาวบ้านได้ยิน จากนั้นได้นำมีดไปทิ้งที่สะพานและเปลี่ยนเสื้อขับรถจักรยานยนต์หลบหนีจาก จ.ชลบุรี
ด้าน นายไพฑูรย์ พ่อของผู้ต้องหา กล่าวว่า ลูกชายได้ติดต่อเข้ามาบอกว่าหลบหนีคดีมาอยู่ในพื้นที่ จ.นครปฐม ให้มารับด้วย จากนั้นจึงรีบขับรถยนต์ไปรับมาอยู่ที่บ้าน และขอร้องให้ลูกชายเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งอย่างน้อยก็ไม่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญ ลูกชายจึงยอมให้พาเข้ามอบตัวที่ สภ.ท่าม่วง ส่วนชะตาชีวิตของลูกชายจะเป็นอย่างไรนั้น ขอให้ขึ้นอยู่กับกฎหมายบ้านเมือง แต่อย่างไรก็ตาม ตนและภรรยาต้องกราบขอโทษไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายด้วย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง ได้ส่งตัวนายประจักษ์ไปที่โรงพักหนองปรือ จ.ชลบุรี เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ปรากฏว่า ประชาชนจำนวนหลายร้อยคนได้มารอรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา พร้อมก่นด่าสาปแช่งตลอดเวลา โดยบางส่วนได้ฮือเข้ามาในหมู่บ้านจนรั้วพังเสียหายจนเจ้าหน้าที่ต้องยกเลิกการทำแผนรอบแรกไป ก่อนที่จะพาไปทำแผนอีกครั้งเวลา 22.00 น.
แต่เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุก็มีชาวบ้านกว่า 300 คนดักรออยู่ เจ้าหน้าที่จึงต้องสนธิกำลังกับตำรวจอาสา ตำรวจโรงพักหนองปรือ ตำรวจเมืองพัทยา และตำรวจบางละมุง 200 นายดูแลความปลอดภัย แต่ก็ไม่สามารถหยุดชาวบ้านได้ จึงถูกรุมประชาทัณฑ์จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพานายประจักษ์เข้าไปในบ้านเพื่อทำแผนสำเร็จ และระหว่างทำแผนอยู่ในบ้านนั้นเองก็เกิดเหตุชุลมุนอีกครั้ง เมื่อแม่ผู้ตายคว้ามีดจะแทงผู้ต้องหา แต่เจ้าหน้าที่ช่วยกันห้ามปรามเอาไว้ได้ ภายหลังจากที่ทำแผนเสร็จตำรวจต้องให้นายประจักษ์ปลอมตัวเป็นตำรวจอาสาจึงสามารถออกมาจากที่เกิดเหตุได้
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายประจักษ์ เป็นที่ต้องการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง โดยอยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น โดยเมื่อวันที่ 1 มกราคม เวลาประมาณ 01.00 น. ได้ร่วมกับเยาวชนอีก 2 ราย ก่อเหตุใช้อาวุธเหล็กอะลูมิเนียมดัดแปลงเป็นอาวุธมีดยาว 40 เซนติเมตร ฟันศีรษะและใบหน้า นายสยาม ชุ่มเพ็งพันธุ์ อายุ 18 ปี เย็บกว่า 20 เข็ม นอกจากนี้ นิ้วมือทั้งสองข้างถูกฟันจนขาดเหลือเพียงนิ้วโป้งสองข้าง หลังก่อเหตุยังได้ล็อกกุญแจห้องเพื่อกันไม่ให้ผู้บาดเจ็บหลบหนีออกมา จนญาติมาพบจึงรีบนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
