ผาสุก พงษ์ไพจิตร ชี้ ให้เงินก่อนเลือกตั้งแค่แสดงน้ำใจ ไม่มีผลต่อการลงคะแนน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม  
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Aum Sky Exits

          ผาสุก พงษ์ไพจิตร นักเศรษฐศาสตร์การเมือง วิเคราะห์ การให้เงินก่อนเลือกตั้งเป็นแค่การแสดงน้ำใจตามธรรมเนียมในอดีต ผลวิจัยชี้ชัดไม่มีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนให้ บอกเป็นเพียงมายาคติของชนชั้นกลาง

          การซื้อเสียงในการเลือกตั้งดูเหมือนจะเป็นโจทย์ข้อใหญ่ของประเทศไทยที่ยังแก้ปัญหาไม่ตก เพราะทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นระดับชุมชน ท้องถิ่น หรือระดับประเทศ เรามักจะได้ยินข่าวการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง จนหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องออกมารณรงค์อยู่เรื่อย ๆ นั่นจึงทำให้ชนชั้นกลางบางคนมองว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่พร้อมกับการเลือกตั้ง ตราบใดที่ "เงิน" ยังสามารถ "ซื้อเสียง" ได้อยู่

          อย่างไรก็ตาม มีอีกมุมมองหนึ่งที่น่าสนใจในประเด็นนี้ จาก ศาสตราจารย์ผาสุก พงษ์ไพจิตร นักเศรษฐศาสตร์การเมือง ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในสถานีโทรทัศน์ Voice TV เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2557 ระบุว่า การที่บางคนคิดว่าการให้เงินก่อนเลือกตั้งจะซื้อเสียงให้นักการเมืองได้นั้น เป็นเพียงมายาคติของชนชั้นกลางที่ไม่เข้าใจวัฒนธรรมการเมืองในชนบทเท่านั้น และเป็นการมองอย่างผิวเผิน

          โดย ศาสตราจารย์ผาสุก ได้เคยลงพื้นที่สำรวจเรื่องการซื้อเสียงทั่วประเทศ แล้วพบว่า มีคนเพียง 5% เท่านั้นจะคิดว่าเงินซื้อเสียงมีผลต่อการตัดสินใจ เพราะคนส่วนใหญ่จะลงคะแนนให้กับพรรคการเมืองที่ตนชื่นชอบมากกว่า และถ้าถามว่าพื้นที่ใดที่การซื้อเสียงมีผลต่อการตัดสินใจเลือกมากที่สุด คำตอบก็คือ ภาคกลางและภาคใต้ ไม่ใช่ภาคเหนือหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างที่คนจำนวนหนึ่งคิด

          ศาสตราจารย์ผาสุก ยังมองด้วยว่า การให้เงินก่อนเลือกตั้งไม่ได้เป็นการซื้อขาย เพราะในการซื้อขายนั้น ผู้จ่ายเงินต้องได้รับสินค้า และผู้รับเงินก็ต้องมอบสินค้าให้ผู้ซื้อ แต่การรับเงินก่อนเลือกตั้งนั้นไม่ได้เป็นข้อผูกมัดว่าจะต้องมอบเสียงของตัวเองให้ผู้จ่ายเงิน ดังที่ผลวิจัยระบุว่า คนส่วนใหญ่ 95% เห็นว่าเงินซื้อเสียงไม่มีผลต่อการตัดสินใจเลือก

          ส่วนที่ว่าทำไมปัจจุบันยังมีการซื้อเสียงอยู่นั้น นักเศรษฐศาสตร์การเมือง ชี้ว่า การให้เงินเป็นธรรมเนียมที่ทำกันมาตั้งแต่อดีต และนักการเมืองปัจจุบันก็ยังต้องทำตามธรรมเนียมนั้น แม้ว่าการให้เงินอาจจะไม่ได้ช่วยให้นักการเมืองชนะการเลือกตั้งได้ก็ตาม แต่ก็เป็นการแสดงน้ำใจที่ขาดไม่ได้ เปรียบเหมือนกับการให้เงินแต๊ะเอียในวันตรุษจีน ให้เงินขวัญถุง หรือให้เงินผ่านประตูเงินประทองในพิธีแต่งงาน การให้เงินเช่นนี้ไม่ถือเป็นการซื้อขาย แต่เป็นการให้เชิงวัฒนธรรม


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก