เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล
พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ประกาศอำลาการเมืองในวัย 70 ปี เนื่องจากจุดถึงอิ่มตัว พร้อมแสดงความคิดเห็นกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น โดยย้ำว่า ไม่สนับสนุนให้ใครไปเสี่ยงตายกับการชุมนุมที่กรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557 นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ภายหลังการประชุมใหญ่เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เขต 3 จังหวัดกระบี่ โดยข้อความทั้งหมดมีเนื้อหาดังนี้...
"5 ก.พ. 57
ประชุมใหญ่เลือก กก.บริหาร ปชป. เขต 3 จ.กระบี่
กล่าวปราศรัยกับสมาชิกในฐานะอดีต ส.ส.
1. ขอบคุณ กก.บริหารชุดเก่า ผู้พ้นวาระ ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งตลอดมาในยามที่พรรคเป็นฝ่ายค้าน
2. กล่าวให้กำลังใจ กก.บริหารชุดใหม่ ที่เป็น กก.บริหารชุดแรก ในรอบ 22 ปี ซึ่งเป็นสาขาพรรคที่ไม่มี ส.ส. ในสภา
3. กล่าวอำลาการเมือง ในโอกาสวันที่ 5 ก.พ. 2014 อายุครบ 70 ปีตามทะเบียนบ้าน เพื่อดำรงสถานะอดีต ส.ส. ต่อไป เพราะอิ่มตัวทางการเมืองแล้ว
3.1 เป็น ส.ส.คนแรกของ จ.กระบี่ ที่เป็น ส.ส.เขต ติดต่อกันถึง 22 ปี โดยไม่เคยสอบตก
3.2 ไม่เคยทิ้งประชาชนและพื้นที่ เพื่อไปเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้งที่เป็นอดีตรัฐมนตรี และงานสบายกว่า
3.3 แจ้งให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ได้มาที่หน่วยเลือกตั้งเพื่อลงคะแนน แต่หน่วยเลือกตั้งปิด ที่มาก็เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ต้องการละทิ้งหน้าที่ในโอกาสสุดท้ายที่กำลังจะจบชีวิตการเมือง ไม่ได้ตั้งใจกระทำการขัดกับหัวหน้าพรรคที่ประกาศไม่ไปเลือกตั้งและไม่แจ้งเหตุผลต่อเจ้าหน้าที่ โดยส่วนตัวรักและชื่นชมหัวหน้าพรรคมาโดยตลอด
3.4 การไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสิทธิ แต่การไปลงคะแนนเลือกตั้งเป็นหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตย ต่อไปการเมืองจะเป็นประการใดก็ตาม ขอสมาชิกอย่าไปขัดขวางการเลือกตั้งเด็ดขาด เพราะเราไม่เคยทำเช่นนี้
3.5 ขอบคุณสมาชิกหลายคนที่ได้ร่วมงานกันมาตั้งแต่เป็นหนุ่มสาว จนวันนี้หลายคนตรงหน้าเริ่มแกเฒ่ากันแล้ว
3.6 ในยามสูงอายุ เราจึงซาบซึ้งถึงความรักและผูกพันต่อบุตรหลาน ต้องขออภัยที่ไม่สนับสนุนให้ใครไปม็อบที่กรุงเทพฯ
4. ประสบการณ์ตลอดชีวิตทราบดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น
4.1 ไม่อยากเห็นภาพแม่ นายวสุ สุฉันทบุตร ที่ประคองใบหน้าลูกชายคนเดียวมองหน้าด้วยความอาลัยพร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลจับขอบแว่นดำพรางดวงตาที่แดงกร่ำ หญิงม่ายผู้อดออมส่งเสียลูกคนเดียวจนจบการศึกษาชั้นปริญญาโทจากออสเตรเลีย หวังได้พึ่งพายามแก่เฒ่าฝากผีฝากไข้ แต่นายวสุ กลับทิ้งให้แม่ต้องมาทำศพลูกชายเสียเอง นายวสุจะเป็นวีรบุรุษของใครก็ตาม แต่เป็นคนใจดำกับแม่ตนเองเกินไป ผมจึงไม่ไปงานศพเขา
4.2 ภรรยานายสุทิน มีบุตรอายุเพียง 5 ขวบ ดูเหมือนชื่อแก้วตา แต่วันนี้แม่ของแก้วตาต้องเป็นหญิงม่าย และแก้วตาต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่ 5 ขวบ
4.3 นายประคอง มีลูกคนเล็กอายุเพียง 3 ขวบ ไม่รู้ว่าพ่อตายแปลว่าอะไร
4.4 ดาบตำรวจผู้ตายคนหนึ่ง ลูกชายที่อุ้มอยู่ในมือแม่ พยายามโยนตัวไปหาศพพ่อที่นอนตายอยู่ พร้อมปลุกพ่อให้ตื่นกลับบ้าน
4.5 น้องสาวที่เป็นแพทย์หญิงประจำ รพ. 2 แห่ง ใกล้รามคำแหง แจ้งให้ทราบว่า ศพที่รามคำแหงมีสองศพ ผ่านมือเธอที่โรงพยาบาล ศูนย์นเรนทร รายงานว่า จนถึงวันนี้ คนบาดเจ็บเกิน 600 คนแล้ว คนเจ็บที่ผ่านสายตาเธอต้องพิการตลอดชีวิตในลักษณะต่าง ๆ หลายสิบราย
5. ผมยอมให้คนกระบี่โกรธผมที่ไม่สนับสนุนให้ใครไปเสี่ยงความตายความพิการเช่นนั้น และจนบัดนี้ ใครก็อย่ามาขอสนับสนุนการเดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ จากผมเด็ดขาด บอกกล่าวไว้ก่อน จะได้ไม่ต้องมาเสียใจกัน
พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล
05-02-57"
สำหรับประวัติของ นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ในเส้นทางสายการเมืองมีรายละเอียดดังนี้
ชื่อ-นามสกุล : พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล
วันเกิด : 5 กุมภาพันธ์ 2487
การศึกษา :
มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร
ปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ประวัติการทำงาน :
พ.ศ. 2535-2554 ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระบี่ เขต 3 อ.คลองท่อม อ.ลำทับ และอ.เกาะลันตา
พ.ศ. 2535-2538 ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
พ.ศ. 2538 ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
พ.ศ. 2538 ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการการคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน
พ.ศ. 2537-2549 ดำรงตำแหน่งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ
พ.ศ. 2540-2544 ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ :
พ.ศ. 2542 เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
พ.ศ. 2541 เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฏ (ม.ว.ม.)
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, พรรคประชาธิปัตย์