เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Korn Chatikavanij
กรณ์ จาติกวณิช แชร์เรื่องเล่าวิถีชีวิตชาวนาผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมชวนผู้อ่านมาร่วมกันวิเคราะห์ เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาหลาย ๆ ด้าน ของสังคมไทย
สืบเนื่องจากกรณีการนำเสนอข่าวชาวนาจำนวนมากออกมารวมตัวกัน เพื่อเรียกร้องรัฐบาลให้แก้ปัญหาโครงการจำนำข้าว ซึ่งชาวนาส่วนหนึ่งในหลายพื้นที่ทั่วประเทศยังไม่ได้รับเงิน จนส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่นั้น ล่าสุด วันนี้ (9 กุมภาพันธ์ 2557) นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เรื่องเล่าเกี่ยวกับชาวนาลงใน เฟซบุ๊ก Korn Chatikavanij โดยระบุข้อความดังนี้...
"วันอาทิตย์นี้ผมขอนำเรื่องคนอื่นเล่ามาแชร์ครับ
"เมื่อผมยังเด็ก
ชาวนาหาบข้าวสารมาขายที่บ้านเรา ลิตรละบาท
ตอนแรกแม่บอกว่า ข้าวสารยังไม่หมด ยังไม่ซื้อ
ชาวนาทรุดตัวลงนั่ง บอกว่า
"ช่วยซื้อเถอะ ไม่ต้องถึงลิตรละบาท จะไปซื้อชุดนักเรียน"
ผมเห็นสีหน้าชาวนา ขณะนั่งยอง ๆ หัวเข่าและขาสั่น
แววตาของเขายามเมื่อมองหน้าแม่ เหมือนจะพูดมากมาย
"ถ้าอย่างงั้นก็ซื้อทั้งหมดนี่แหละ ไม่ต้องลดราคา" แม่พูด
ผมเห็นสีหน้าของชาวนาคนนั้นอีก เหมือนเงาเมฆสลับแดด
นัยน์ตาของเขายิ้ม
"วันนี้ลูกสาวมันก็มีชุดไปเรียนหนังสือ ไม่อายเพื่อน"
แสงแดดสว่างใส ในใจผมด้วย
เด็กหญิงลูกชาวนาเป็นเพื่อนชั้น ป.เตรียม ของผม"
(จาก facebook คุณมกุฏ อรฤดี)
อ่านแล้วคิดอย่างไรกันบ้างครับ ผมอ่านแล้วคิดอย่างนี้...
1. เศร้า และเป็นแรงบันดาลใจให้ทำงานให้ผู้ด้อยโอกาสต่อไป
2. ชาวนาสมัยโน้นยังสีข้าวเอง ขายเอง ถึงขาดระบบการบริหารจัดการที่ดี แต่อย่างน้อยเงินที่ได้ไม่ต้องเสียส่วนแบ่งให้กับใคร
3. ลูกชาวนาที่ยากจนผู้นี้ได้เรียนหนังสือโรงเรียนเดียวกับลูกผู้มีฐานะที่ดีกว่า ประเด็นนี้สำคัญ เพราะอย่างน้อยโอกาสความก้าวหน้ายังมี เราต้องทำให้จนหรือรวยมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่ดีเท่ากัน
4. ผู้เล่า (คุณมกุฏ) ได้มีการเรียนรู้ถึงปัญหาความเหลื่อมลํ้าในสังคมแต่วัยเยาว์ คงมีอิทธิพลต่อความคิดพอควร เพราะจำเรื่องนี้ได้ในรายละเอียดพอที่จะเอามาเล่าต่อกันได้ อยากให้เด็กสมัยนี้หลุดจากโลกตัวเองและสัมผัสความจริงในสังคมกันบ้าง
5. การช่วยคนนั้น ใครก็ทำได้ ทุกเมื่อ ขึ้นอยู่กับว่าเรามองเห็นโอกาสหรือไม่"
