สทท.แนะเลิกให้พ.ร.ก.ฉุกเฉินห่วงกระทบเชื่อมั่น (ไอเอ็นเอ็น)
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ แนะ รบ. เลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห่วงกระทบเชื่อมั่น ชี้ โรงแรมลดราคาห้องพักไม่หนุนยอดขายธุรกิจ ห่วงฉุดรายได้หาย 8 หมื่นล้านบาท
วันนี้ (9 กุมภาพันธ์ 2557) นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาคการท่องเที่ยวมีความเป็นห่วงถึงการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของรัฐบาล ที่จะส่งผลต่อบรรยากาศภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวในเชิงจิตวิทยาด้านความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว ที่ทำให้เกิดความกังวลต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่อาจมีปัญหาหรือสถานการณ์รุนแรง รวมถึง นักธุรกิจในหลายประเทศ ไม่สามารถเข้ามาติดต่อธุรกิจได้ จากข้อตกลงและเงื่อนไขของบริษัทเกี่ยวกับการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่
ทั้งนี้ สทท. ได้เรียกร้องไปยังหลายเวที ถึงการพิจารณายกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้มีการเจรจาพูดคุย ไม่ให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น ควบคุมเช่นเดียวกับก่อนการประกาศใช้ พ.ร.ก. พร้อมยอมรับว่า ตั้งแต่มีการปิดกรุงเทพมหานครมา ภาคการท่องเที่ยวยังคงสามารถบริหารจัดการได้
นอกจากนี้ นางปิยะมาน กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้มีการแข่งขันของโรงแรม ในการดึงดูดยอดจองที่พักเกิดขึ้น โดยที่ผ่านมา จะเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งทาง สทท. พยายามเจรจาให้ทุกโรงแรมไม่กดราคาซึ่งกัน เนื่องจากไม่ส่งผลให้เกิดประโยชน์ใด พร้อมแนะให้มีการเตรียมการสำหรับคุณภาพ บริการ เพราะเมื่อเหตุการณ์กลับสู่ปกติ ยอดจองห้องพักก็จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ขณะที่ สถานการณ์เมืองในปัจจุบันที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้มีความเป็นห่วงถึงจำนวนนักท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 1 และ 2 ของปี 2557 จะต่ำกว่าเป้าที่คาดไว้ที่ 1.7 ล้านคน เป็นจำนวนรายได้ที่อาจสูญไปประมาณ 8 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 6 ของยอดรวมทั้งปีที่ตั้งเป้าไว้ที่ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการเชิญสื่อมวลชนจากประเทศต่างๆ จำนวน 40 คน ให้เดินทางลงพื้นที่การชุมนุมจริง และแหล่งท่องเที่ยวหลักของไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจเพิ่มขึ้น รวมถึงในต้นเดือนมีนาคม จะมีมหกรรมงานท่องเที่ยวครั้งใหญ่ที่เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะเดินทางไปพร้อมผู้ประกอบการ ร่วมประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจถึงการท่องเที่ยวในไทย
ทั้งนี้ นางปิยะมาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเป้าหมายรายได้การท่องเที่ยวในประเทศจากคนไทยในปีนี้ มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 8 หรือประมาณ 7 แสนล้านบาทจากเป้าหมายทั้งหมด ซึ่งต้องการให้ภาครัฐช่วยในการกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะเมื่อมีงบประมาณออกมาแล้ว การประชุม หรือ การจัดสัมมนาของภาครัฐเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยประคับประคองตลาดได้
