x close

ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ นอสตราดามุสเมืองไทย ในวู้ดดี้เกิดมาคุย




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย โพสต์โดยคุณ WOODYTALK CH สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

           ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ นอสตราดามุสเมืองไทย กับคำทำนายภัยพิบัติประเทศไทยปีนี้ ในวู้ดดี้เกิดมาคุย

          เคยสร้างความประหลาดใจให้ใครหลายคนมาแล้ว เกี่ยวกับคำทำนายของ "ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ" ในเรื่องภัยพิบัติ ตั้งแต่ครั้งเหตุการณ์ตึกเวิล์ดเทรดถล่ม เหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 และเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของประเทศไทยเมื่อปี 2554 จนได้รับฉายานามว่า.. "นอสตราดามุสเมืองไทย" ล่าสุดรายการวู้ดดี้เกิดมาคุยจึงไม่รอช้าเชิญ ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ มาพูดคุยทำนายภัยพิบัติประเทศไทยปีนี้ เมื่อค่ำคืนวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557

          โดย  ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ 11 กันยาที่สหรัฐฯ ให้ฟังว่า ครั้งแรกตนยังไม่รู้ว่าเหตุการณ์เกิดที่ไหน คือเห็นตึกสูงมากแล้วมีอะไรมาชนจนระเบิด จนกระทั่งตนเปิดหนังสือฉบับภาษาอังกฤษแล้วพบตึกเวิลด์เทรดซึ่งเป็นตึกที่ตนเห็น ตนจึงบอกผู้ใหญ่ในวงการทหาร รวมถึงวันที่จะเกิดเหตุด้วยว่าเป็นวันที่ 11 กันยายน แต่ผู้ใหญ่ก็ตอบว่า มันจะเป็นไปได้เหรอ

          และทุกครั้งที่ตนเตือนจะต้องบอกวันเสมอ อย่างเหตุการณ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ตนบอกทุกคนที่ได้ไปบรรยายให้ฟัง ตอนเห็นภาพนี้เห็นที่กรุงเทพฯ แต่ไปทำพิธีที่ท้ายเหมือง เพราะตนมั่นใจว่าจะต้องเกิดที่ภูเก็ต ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ตนถูกนักวิทยาศาสตร์ รวมถึง ดร.สมิธ ออกมาว่าเยอะ ว่าตนไม่รู้จริง สึนามิไม่เคยเกิดในไทย แต่ตนก็บอกว่า ไม่ใช่ไม่เคยมี แต่คุณเกิดไม่ทัน มันเคยเกิดเมื่อ 4,000-5,000 ปีที่แล้ว จนกระทั่งศูนย์กลางและเมืองใหญ่กลางมหาสมุทรอินเดียล่มหายไป

          ส่วนที่รู้ได้อย่างไรว่าจะเกิดที่ภูเก็ตนั้น ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ กล่าวว่า ตนตั้งคำถามในใจ ส่วนคนที่ตอบซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่เชื่อมต่อกันด้วยคลื่นบางอย่าง เขาตอบมาว่าอันดามัน ซึ่งในวันที่ 25 ธันวาคมก่อนเกิดเหตุ ตนและเพื่อน ๆ ได้ไปที่ปากช่อง

          เมื่อถามว่าทำไมจึงไม่เตือนหน่วยราชการนั้น ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ กล่าวว่า ถ้าไม่เตือน อาจารย์จะพิมพ์บทสวดมนต์เป็นแสน ๆ ใบเหรอ ตนเตือนมาตลอดบอกให้ช่วยกันสวดมนต์ ซึ่งมีลูกศิษย์ตน 7 คนที่รอดชีวิต ตนได้ให้บทสวดและเตือนเขาไป ปรากฏว่าตอนเช้าลูกศิษย์โทรมาร้องไห้บอกว่า ที่ตนเตือนเกิดขึ้นจริง ๆ แล้ว และที่ตนไปเขาใหญ่ในวันก่อนเกิดเหตุนั้นเพราะที่นั่นเป็นเขาสูง และมีเสาวิทยุเยอะ ที่เราสามารถเชื่อมพลังงานเพื่อยิงสัญญาณได้

ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ นอสตราดามุสเมืองไทย

ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ นอสตราดามุสเมืองไทย

          ทั้งนี้ ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ เล่าด้วยว่า การที่หยั่งรู้อนาคตนั้น เรียกว่า ญาณวิถี คนทรงญาณ การที่จิตสงบ เป็นสมาธิระดับสูง เกิดจากการที่เรามีอยู่แล้วตั้งแต่อดีตชาติและฝึกด้วย ตนไม่ใช่หมอดู หรือนักพยากรณ์ แต่สิ่งที่ตนเห็นยังไม่มีอะไรที่ไม่เกิดขึ้น ทุกอย่างที่เห็นเกิดขึ้นหมด ครั้งแรกที่เห็นคือ 4-5 ขวบ ตนเห็นขโมยขึ้นบ้านและถูกตีอยู่ที่ระเบียง ตนจึงบอกผู้ใหญ่ในบ้าน ซึ่งเขาก็เชื่อ หลังจากนั้นไม่เกิน 7 วันก็มีขโมยขึ้นบ้านจริง ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นตนยืนยันได้ว่าไม่ใช่จินตนาการเพราะตนใช้เวลาในการพิสูจน์ตัวเอง 15-18 ปี


          และเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ กล่าวว่า ตนได้คุยกับ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา จึงเริ่มศึกษาเรื่องฟิสิกส์ คลื่นพลังงานแม่เหล็กต่าง ๆ จนเริ่มเข้าใจว่า ถ้าสมาธิ จิตเราดี เคิร์ฟในสมองจะมีความถี่ห่าง ซึ่งสามารถจับจูนคลื่นพลังงานต่าง ๆ ที่มีรอบตัว นอกจากนี้ตนยังได้สอนน้อง ๆ ให้ฝึกสร้างพลังงานขึ้นมาเอง เพื่อให้ได้สัมผัสพลังงานจริง ๆ โดยการถูมือและเคาะนิ้ว ซึ่งจะช่วยการสร้างสเต็มเซลล์ เพราะหลังเดือนพฤษภาคมปีนี้ โลกจะเริ่มเปลี่ยนแปลง และมนุษย์จะเริ่มกลายพันธุ์ !

          โดยโครงสร้างดีเอ็นเอเราจะผิดปกติ เพราะความไม่สมดุลของยีนเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กโลก เกิดจากสิ่งที่ร่างกายสะสม มลพิษสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ รวมถึงปัจจัยทางสมอง ทุกวันนี้มนุษย์อยู่กับสนามพลังงานแม่เหล็กซึ่งพร้อมที่จะเปลี่ยนกระบวนการเซลล์ของเราให้ผิดปกติ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมปัจจุบันคนเราถึงเป็นมะเร็งกันเยอะมาก โดยภาพเหล่านี้ตนเห็นเมื่อ 10 กว่าปีก่อน มนุษย์มีหนอกที่หลัง แขนและมือสั้นกว่าปกติ แต่หนาใหญ่ เท้าขาผิดปกติ จะว่าเหมือนมนุษย์โบราณก็ไม่ใช่เพราะอันนั้นดูแข็งแรง แต่อันนี้ดูปวกเปียก เป็นภาวะที่ไม่สมดุลเลย ซึ่งขึ้นอยู่กับพื้นที่ ถ้าพื้นที่ไหนไม่มีเทคโนโลยี และไม่มีการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กมากก็อาจจะไม่เป็นมาก

          ส่วนที่หลาย ๆ คนมักจะสงสัยว่าเรื่องที่ตนเตือนจริงหรือเปล่า อยากดังหรือเปล่า ทำไมจึงตั้งฉายานอสตราดามุส ตนไม่ได้ตั้งเอง สื่อเป็นผู้ตั้งให้ เพราะเราไม่ได้อยากดัง และไม่ได้คิดที่จะเอาความรู้หรือความสามารถพิเศษมาทำมาหากินหรือทำให้ตัวเองโด่งดัง ซึ่งพระ ซินแส บอกว่า ตนเป็น 1 ในสิบล้านคน และเป็นหน้าที่ที่ตนจะต้องลงมาทำบางอย่าง ตนเป็นพรหม คือผู้ที่สำเร็จแล้ว ปฏิบัติแล้ว และไม่มาเกิดก็ได้ จะเกิดก็ได้

          ส่วนที่คนไทยนับถือพระสยามเทวาธิราชนั้น ท่านเสด็จกลับข้างบนแล้วตั้งแต่ พ.ศ. 2523 เพราะหมดวาระของท่านแล้ว กรุงเทพฯ สร้างมา 200 กว่าปีแล้ว ทุกอย่างมีกำหนดอายุขัยทั้งนั้น เทวดาที่รักษาเมืองก็มีอายุขัยเช่นกัน โดยพระสยามเทวาธิราชสร้างในช่วงสมัยรัชกาลที่ 4 และสมเด็จพระพุฒาจารย์โตอัญเชิญจิตวิญญาณของเทวดามาพิทักษ์รักษา แต่ ณ ปัจจุบันพระสยามเทวาธิราชกลับไปแล้ว ส่วนพรหมที่ดูแลประเทศไทยอยู่ตอนนี้คือพระอัสดายุ ซึ่งมนุษย์จะไม่สามารถเห็นได้เลยถ้าตนไม่ได้เปิดมิติของสวรรค์

          และเหตุการณ์ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้นั้น ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ กล่าวว่า หลังวันที่ 13-18 กุมภาพันธ์ จะมีเรื่องน่าตื่นเต้นตกใจเกิดขึ้น มีแผ่นดินทรุดตัวและแยกยุบในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง กทม. และปริมณฑล คล้ายธรณีพิโรธ เห็นสายฟ้าฟาด ฟ้าผ่าลงมาที่สถานีไฟฟ้าย่อย ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง จะมีไฟไหม้ขนาดรถกระเช้าขึ้นไม่ถึง เห็นตึกสูงถล่ม ถึงเวลาฟ้าดินจะชำระล้าง ส่วนทางออกนั้น หากเชื่อในกรรมดี มีสติอยู่กับลมหายใจ สร้างแต่กรรมดี ไม่สร้างอกุศลกรรม พลังงานบวก คิดบวก สิ่งต่าง ๆ จะเชื่อมโยงกับพลังงานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ และหมั่นสวดมนต์ไหว้พระปฏิบัติธรรม นอกจากนี้ที่สหรัฐอเมริกาจะมีแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง แถวแคลิฟอเนียร์ จอร์เจีย

          และหลังพฤษภาคม สนามพลังงานแม่เหล็กโลกจะเคลื่อน คนจะเดินไม่ได้ เสียการทรงตัว ต้องคลานกันทั้งโลก เพราะเกิดการสวิงตัวของสนามแม่เหล็ก ซึ่งเราต้องรักษาร่างกายให้สมบูรณ์ หายใจให้เป็น หายใจให้ลึก อย่าให้ท้องผูก ออกกำลังกาย ทำยังไงก็ได้ให้เราแข็งแรง

          ขณะที่ทางด้าน ดร.สมิธ กล่าวถึงคำทำนายของ ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ ว่า คำว่าธรณีพิโรธมีจริง แต่ไม่เคยเกิดขึ้นในไทย ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อแผ่นดินไหวรุนแรงเกิดขึ้นห่างกรุงเทพฯ 300-350 กม. ถ้าคลื่นแผ่นดินไหวผ่านพื้นดินอ่อน มันจะขยายอัตรากำลังพลังงานขึ้นอีก 2 เท่าครึ่ง กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนดินเลน ถ้ามีคลื่นแผ่นดินไหวขนาดกลางหรือใหญ่ผ่านมา อัตราการขยายพลังงานจะเพิ่มขึ้น ถ้าเข้ามาจริง ๆ กรุงเทพฯ ก็จะเป็นอย่างที่ ดร.กัญจิรา บอก มีตึกถล่มแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นที่เม็กซิโกมาแล้ว

          ส่วนเรื่องการสวิงตัวของสนามแม่เหล็กนั้นอาจเกิดจากการที่ดวงอาทิตย์ปลดปล่อยพลังงานออกมา มันจะกระทบต่ออากาศ แผ่นดินไหว ซึ่งเว็บไซต์องค์การนาซาจะมีบอกไว้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ  บอกอาจจะเกิดได้แน่ใน 200-300 ปี เพราะพลังงานสะสมในใจกลางโลกต้องปลดปล่อยออกมา ทำให้พื้นผิวโลกมีการเคลื่อนตัว











เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ นอสตราดามุสเมืองไทย ในวู้ดดี้เกิดมาคุย อัปเดตล่าสุด 17 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 16:35:13 418,677 อ่าน
TOP