รวบแก๊งสกิมเมอร์ต่างชาติ ฉกข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม เสียหาย 4 ล้านบาท

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด

          ตำรวจทองหล่อรวบตัวแก๊งสกิมเมอร์ ฉกข้อมูลจากบัตรเอทีเอ็ม เป็นชาวรัสเซีย และชาวยูเครน โดยมีของกลางจำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหาย 4 ล้านบาท ด้านกสิกรไทย เผย คนร้ายปลอมบัตรเอทีเอ็มฟันเงินไปปีละ 100 ล้านบาท

          วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ แถลงข่าวจับกุม นายแอนเดรย์ มิคเคลอฟ (Mr.Andrey Mikhaylow) อายุ 27 ปี สัญชาติรัสเซีย, นายโรมัน โนวัค (Mr.Roman Novak) อายุ 32 ปี สัญชาติยูเครน และ น.ส.โอเลน่า วอยเทนโค (Ms.Olena Voytenko) อายุ 27 ปี สัญชาติยูเครน ซึ่งเป็นแก๊งหลอกฉกข้อมูลในบัตรเอทีเอ็ม โดยจับได้พร้อมของกลาง ซึ่งทั้งหมดรวมมูลค่าความเสียหายได้ประมาณ 4 ล้านบาท ดังนี้

           เครื่องสกิมเมอร์ (สำหรับคัดลอกข้อมูล) 1 เครื่อง
          คอมพิวเตอร์ (สำหรับบันทึกข้อมูล) 1 เครื่อง
          บัตรเอทีเอ็มปลอม ที่บันทึกรหัสแล้ว 20 ใบ
          บัตรเอทีเอ็มปลอม ที่ยังไม่ได้บันทึกรหัส 30 ใบ
          บัตรเอทีเอ็มจริงของเหยื่อ ประมาณ 20 ใบ
          หนังสือเดินทาง
          เงินสด 40,000 บาท
          เงินดอลลาร์ 2,250 ดอลลาร์


          พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น.5 เปิดเผยว่า ตำรวจได้จับกุมตัว นายแอนเดรย์ มิคเคลอฟ ได้ที่ปากซอยทองหล่อ 25 ขณะตั้งด่านตรวจ เมื่อตรวจค้นจึงพบบัตรอิเลคทรอนิกส์ปลอมหลายใบ จึงพาไปตรวจสอบที่ห้องพัก และพบกับ นายโรมัน โนวัค และน.ส.โอเลน่า วอยเทนโค เพื่อนร่วมขบวนการ พร้อมกับของกลางจำนวนมาก

          จากการตรวจสอบพบว่าเครื่องสกิมเมอร์ของกลาง ใช้บันทึกข้อมูลของผู้เสียหายในแถบอเมริกาและยุโรป โดยเพียงแค่วางบัตรลงไป 30 วินาที เครื่องก็จะคัดลอกและบันทึกข้อมูลเอาไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างตรวสอบให้ชัดอีกครั้ง

          ทั้งนี้ได้มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของตู้เอทีเอ็มต่าง ๆ พบ นายแอนเดรย์ กำลังกดเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยที่อยู่ในโรงแรมมาศรี เขตพระโขนง กทม. นอกจากนี้ค้นพบหนังสือเดินทางของผู้ต้องหาในกลุ่มนี้อีก 1 คน คือ นายแซนเดอร์ แทน (Mr.Xander Tann) อายุ 28 ปี สัญชาติแอสโทเนีย เป็นผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับคดีปลอมแปลงบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ศาลจังหวัดพัทยา

          ขณะที่ สมชาย พิชิตสุรกิจ รองผู้อำนวยการฝ่าย ผู้บริหารงานจัดการทุจริต ธนาคารกสิกรไทย บอกว่า คดีทุจริตถอนเงินจากเอทีเอ็มแบบนี้ มีการนำข้อมูลบัตรจากแถบอเมริกา แคนาดา และยุโรป เข้ามาทุจริตในเมืองไทยประมาณปีละ 100 ล้านบาท ซึ่งต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดำเนินการจับกุมตัวเอาไว้ได้


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก