นิวัฒน์ธำรง ตั้งเป้าเร่งระบายข้าวในโครงการรับจำนำข้าว เดือนละ 1 ล้านตัน และจะคืนเงิน ก.คลัง เดือนละ 8 พันล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายชาวนา
เมื่อวานนี้ (24 กุมภาพันธ์ 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุม 2 หน่วยงานเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว ได้แก่ การประชุมของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อย่างไรก็ตาม ผลการประชุมยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการหาเงินมาจ่ายชาวนา มีแต่ข้อแนะนำให้เร่งระบายข้าวเพื่อนำเงินมาหมุนเวียนเท่านั้น
ขณะที่ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังจากเป็นประธานการประชุม กขช. ว่า กขช. ลงมติให้กระทรวงพาณิชย์ของบกลางวงเงิน 1-2 หมื่นล้านบาทต่อที่ประชุม ครม. ในวันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2557) เพื่อนำมาช่วยชาวนา ซึ่งถ้าหากที่ประชุม ครม. อนุมัติ ก็จะนำเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อไป
รมว.พาณิชย์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าเร่งระบายข้าวเพื่อนำเงินส่งคืนกระทรวงการคลัง ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 8,000 ล้านบาท ก่อนที่จะนำเงินมาหมุนเวียนจ่ายให้ชาวนาต่อไป โดยยอดการระบายข้าวเดือนมกราคมที่ผ่านมา ระบายได้ 1 ล้านตัน ส่วนเดือนกุมภาพันธ์คาดว่าน่าจะระบายได้อีก 1 ล้านตัน ทำให้รัฐบาลยังคงเหลือข้าวในสต็อกประมาณ 12-13 ล้านตัน ตั้งเป้าในอนาคตว่าจะระบายได้เดือนละ 1 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 10,000 ล้านบาทต่อเดือน พร้อมกันนี้ ยอมรับว่าเงินที่ใช้สำหรับโครงการจำนำข้าวจะเป็นเงินกู้ส่วนใหญ่ แต่ตอนนี้ติดปัญหาด้านการกู้เงิน
ด้านนายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า แผนการระบายข้าวตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์จนถึงต้นเดือนมีนาคม 2557 น่าจะระบายข้าวในสต็อกได้อีก 8 แสนตัน แบ่งเป็นการเปิดประมูลทั่วไปประมาณ 3 แสนตัน โดยจะระบายเพื่อให้ใช้ในประเทศและส่งออกกับกลุ่มผู้ประกอบโรงสีที่ต้องการซื้อข้าวสารของรัฐบาล นอกจากนี้ รัฐบาลมีแผนระบายข้าวอีก 3 แสนตัน ให้กับผู้ประกอบการที่มีคำสั่งซื้อข้าวจากในประเทศ อยู่ในขั้นตอนการเจรจาและจัดทำทีโออาร์ ส่วนอีก 2 แสนตัน เป็นการระบายข้าวผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า (เอเฟท) ทำให้ภายในสัปดาห์นี้ คาดว่ากระทรวงพาณิชย์จะระบายข้าวได้ประมาณ 1 ล้านตันตามเป้าแน่นอน
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยอีกว่า ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการระบายข้าวได้ 6 แสนตัน ทำให้ได้เงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท แต่การชำระก็เป็นการชำระตามสัญญาการส่งมอบ อย่างไรก็ดี กรมก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อนำเงินมาจ่ายหนี้ชาวนา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
