เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Noppadon Pattama
นพดล ปัทมะ โพสต์เฟซบุ๊กแจง 10 เหตุผลที่ควรเร่งยุติขัดแย้งการเมือง เพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้นในประเทศ
วันนี้ (2 มีนาคม 2557) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว Noppadon Pattama ระบุว่า นับตั้งแต่มีการชุมนุมของ กปปส. มาจนถึงปัจจุบัน ทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท อีกทั้ง ยังมีการบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ตนจึงอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเจรจา เพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้
และในกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ยื่นเงื่อนไขในการเจรจากับรัฐบาลนั้น ตนมองว่า นายสุเทพ ไม่ควรตั้งเงื่อนไขในการพูดคุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะ กปปส. มีหน้าที่ยุติความขัดแย้งโดยการเจรจาอย่างสันติวิธี และคืนประเทศไทยให้คนไทย พร้อมกันนี้ ตนขอยืนยันอีกครั้งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และบุคคลที่เกี่ยวข้อง มีอำนาจพูดคุยเจรจาได้ในทุกเรื่อง ส่วนนายสุเทพนั้น ควรมีหนังสือมอบอำนาจมาด้วย เพื่อยืนยันว่าตนเองมีอำนาจเจรจาจริง
ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว Noppadon Pattama มีรายละเอียด ดังนี้
นายนพดล ปัทมะ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ย้ำ 10 เหตุผลที่ต้องยุติความขัดแย้งทางการเมืองโดยการพูดคุย
นายนพดล ปัทมะ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ความขัดแย้งทางการเมืองตั้งแต่ กปปส. เกิดขึ้น ทำให้ประเทศเสียหายทางเศรษฐกิจแล้ว กว่า 5 แสนล้าน และมีการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ตนจึงเห็นว่าต้องยุติความขัดแย้งโดยเร็วและหันหน้าเจรจา เพราะเหตุผล 10 ข้อดังนี้
1. จากการสำรวจของดุสิตโพลคนไทยส่วนใหญ่ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเจรจา
2. สหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป เรียกร้องให้มีการเจรจา
3. ความขัดแย้งต่อไป จะทำให้ความเสียหายทางเศรษฐกิจ เป็นความพินาศ
4. ข้อเรียกร้องให้มีนายกฯ คนกลาง สภาประชาชน และแช่แข็งประเทศของมวลมหาประชาชน กปปส. นั้น ปวงชนชาวไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย
5. ความรุนแรงที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมมีมากขึ้น และการเสียชีวิตของเด็ก เป็นสิ่งที่คนรับไม่ได้
6.. การชัตดาวน์กรุงเทพ สร้างความเดือดร้อนและทำลายธุรกิจ จน กปปส. ต้องชัตดาวน์เวทีตนเอง ไปรวมที่สวนลุม ซึ่งผู้ว่าฯ กทม. คงจะดูแลอย่างดี
7. นายทุนเห็นว่าเริ่มชุมนุมยื้อเยื้อ ท่อน้ำเลี้ยงเริ่มตีบตัน ราวกับท่อประปาในหน้าแล้ง
8. ผู้ชุมนุมเริ่มลดลง เพราะการชุมนุมยืดเยื้อ และเริ่มรู้ว่าสิ่งที่เรียกร้องไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและหลักการประชาธิปไตย แม้แต่ฝ่ายทหารก็บอกว่า ทุกฝ่ายต้องทำตามกฎหมายและสันติวิธี
9. การปิดหน่วยงานของรัฐ หรือธุรกิจของฝ่ายตรงข้าม มีผลตีกลับในทางลบ เพราะคนไม่ชอบการใช้ความรุนแรง และข่มขืนใจบุคคลอื่น ทำให้นักลงทุนต่างชาติ ขยาดที่จะลงทุนเพิ่ม
10. วิธีการคุกคามโดยเป่านกหวีดใส่หน้าคนอื่น การปิดล้อมบีบบังคับให้ข้าราชการออกจากที่ทำงาน การคุกคามขัดขวางการเลือกตั้ง เป็นการใช้ความรุนแรง และทำลายวัฒนธรรมอันดีงามของไทย คนไทยจึงรับไม่ได้
ดังนั้นตนจึงเห็นว่า รัฐบาลเหมือนรถไฟที่วิ่งบนราง ทำตามกฎกติกา กปปส. จึงไม่สามารถทำให้รถไฟตกรางได้ จะต้องขึ้นมาร่วมขบวนรถไฟ พูดคุยกันบนรางภายใต้กรอบกติกา นายสุเทพไม่ควรตั้งเงื่อนไขในการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี เพราะ กปปส.มีหน้าที่ยุติความขัดแย้งโดยการเจรจาอย่างสันติวิธี คืนประเทศไทยให้คนไทย เพื่อเดินหน้าเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ตนยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง มีอำนาจพูดคุยเจรจาได้ในทุกเรื่อง ส่วนนายสุเทพนั้น ควรมีหนังสือมอบอำนาจ มาด้วย เพื่อยืนยันว่าตนเองมีอำนาจเจรจา นายนพดล กล่าว
2 มีนาคม 2557
