เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ LAKORNHD Thaitv (Official) สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
พ่อสุดโหด ใช้ไม้แขวนตีลูกจนหัก ขังลูกไว้ในบ้าน ปล่อยหิวโซ เพื่อนบ้านทนไม่ได้ โร่แจ้งความให้เข้าช่วย ด้านพ่ออ้าง ตีเพราะบันดาลโทสะ ขังลูกไว้เพราะกลัวออกนอกบ้านแล้วจะเป็นอันตราย
วานนี้ (4 มีนาคม 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่า มีเด็กร้องไห้เสียงดังอย่างทรมาน ภายในบ้านพักไม่มีเลขที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ ทั้งนี้ เมื่อไปถึงยังที่เกิดเหตุพบว่า บ้านดังกล่าวเป็นทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว สภาพบ้านมีของวางเกะกะ ข้าวของกระจุยกระจาย และมีขวดเหล้าขวดเบียร์วางระเนระนาดอยู่บนพื้น โดยมีเด็กน้อยวัย 2 ขวบ และ 4 ขวบ ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ยืนเกาะลูกกรงร้องไห้อย่างน่าเวทนา
และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดกลอนลูกกรงเหล็กเข้าไป เด็กทั้งสองคนต่างวิ่งเข้ามากอดด้วยความดีใจ พร้อมร้องขออาหารกิน จนชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้นำกล้วยน้ำว้า 2 ลูกมาให้กินเพื่อบรรเทาความหิวในเบื้องต้น
จากการตรวจสอบร่างกายของเด็กทั้งสองคนพบว่า มีร่องรอยจากการถูกตีที่แผ่นหลังและขาทั้งสองข้าง และมีรอยฟกช้ำอย่างเห็นได้ชัด โดยเด็กทั้งสองคนได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ถูกพ่อใช้ไม้แขวนเสื้อตีจนหัก และขังไว้ให้อยู่ในบ้าน โดยที่ตนไม่ได้กินอะไรเลย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ชาวบ้านไปตาม นายเอ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและพ่อของเด็กมาสอบปากคำ โดยนายเอเผยว่า ตนมีอาชีพเป็นช่างซ่อมเครื่องยนต์ที่อู่แห่งหนึ่ง อยู่กินกับภรรยาและมีลูก 2 คน แต่เมื่อ 8-9 เดือนที่ผ่านมา ภรรยาหนีออกจากบ้าน และทิ้งลูกทั้งสองให้ตนเองเลี้ยงดู พร้อมกับหนี้สินอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ตนเกิดอาการเครียด จึงหันมาดื่มเหล้าเพื่อระบายความเครียด อีกทั้งยังเครียดหนักเมื่อไม่มีคนดูแลลูกสาวสองคน เนื่องจากตนต้องออกไปทำงานทุกวัน จึงได้ขังลูกเอาไว้ในบ้าน
นายเอ เล่าต่อว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ ตนกลับบ้านมาเพื่อจะหายาให้ลูกกิน เพราะลูกไอหนัก แต่ปรากฏว่าลูกสาวทั้งสองได้ดื่มยาแก้ไอที่ตนซื้อไว้จนหมดขวด ด้วยความที่กลัวลูกจะเป็นอันตราย จึงเกิดบันดาลโทสะ ใช้ไม้แขวนเสื้อตีลูกสาวทั้งสองอย่างรุนแรง พร้อมกับขังลูกไว้ในบ้าน เพราะเกรงว่าลูกจะเป็นอันตรายหากปล่อยไว้นอกบ้าน จึงขังไว้และเลิกงานก็จะรีบกลับมาดู
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เผยว่า ตนได้เรียกนายเอมาว่ากล่าวตักเตือน และอย่าทำการในลักษณะเช่นนี้อีก เพราะเด็กมีกฎหมายคุ้มครอง หากมีครั้งต่อไปจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
