เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Ar-pae.com
คิวทำพาสปอร์ตยังวุ่น มีคนรับจ้างต่อแถวตั้งแต่ ตี 2 คิดค่าจ้างครั้งละ 1 พันบาท ทั้ง ๆ ที่มีการเปิดให้จองคิวแบบออนไลน์แล้ว ชาวเน็ตถามทำไมกงสุลแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้ไม่ได้
ยังคงเป็นปัญหาไม่เลิกสำหรับการต่อคิวเพื่อทำพาสปอร์ตสำหรับเดินทางไปต่างประเทศกับกรมการกงสุล ที่ยังคงคิวยาวแน่นต้องใช้เวลารอนาน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการปิดถนนของผู้ชุมนุม ทำให้กรมการกงสุลสำนักงานใหญ่แจ้งวัฒนะ ไม่สามารถให้บริการได้ ประชาชนจึงต้องกระจายไปทำพาสปอร์ตในสาขาอื่น ๆ ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการ จนกระทั่งกรมการกงสุลออกประกาศให้จองคิวออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ กรมการกงสุล ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 7 มีนาคม 2557 ก็เกิดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์การต่อคิวทำพาสปอร์ตขึ้นอีกครั้ง โดย เฟซบุ๊ก Ar-pae.com ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นสายการบินและการเดินทางต่าง ๆ ได้มีการโพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า
ณ จุดนี้เห็นภาพแล้วรับไม่ได้กันไปเลยทีเดียว กรมการกงสุลไปทำอะไรอยู่ครับ ? เมื่อเดือนก่อนออกมาแถลงผ่านสื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น คนต่อคิวจะน้อยลงเพราะเราสามารถผลิตเล่มพาสปอร์ตได้เพียงพอต่อความต้องการแล้ว ? ไม่ต้องรอคิวยาวอีกต่อไปเพราะเราเปิดรับคิวจอง Online เพื่อแก้ปัญหา แล้วทำไมยังมีคิวตี 2 ขอคำตอบหน่อย ?
ทำไมกรมการกงสุลคาดการณ์อะไรก็ผิดไปทุกเรื่อง ไม่มีอะไรเป็นไปตามที่พูดเลย บัดนี้คิวตี 2 ก็ยังมี คนรับจ้างต่อคิวกันเป็นทิวแถว ตี 2 ตี 3 ก็มาออกันเต็มไปหมดแล้ว ไม่ได้มาทำนะ มาต่อคิวเพื่อเอาไปขายเฉย ๆ นี่แหละ 1,000 บาทเป็นค่าตื่นเช้า ตกลงเดี๋ยวนี้มีเงินแค่พันเดียวนี่ก็ทำพาสปอร์ตไม่ได้แล้วเหรอครับ ต้องบวกค่าคิวไปอีก 1,000 ด้วย
น่าแปลกใจตรงที่ลิสต์ปัญหามาได้ยาวเหยียดขนาดนี้ เจ้าหน้าที่ของรัฐหายหัวไปไหนหมด ทำไมไม่มาช่วยกันแก้ปัญหากะโหลกกะลาแบบนี้ เรื่องพาสปอร์ตมันปัญหาใหญ่ถึงขั้นเข้า-ออกเมืองไทยกันไม่ได้ทำไมท่านเพิกเฉย ถ้าผู้บริหารระดับสูงยังนิ่งกันอยู่แบบนี้ก็ลาออกไปกินบำนาญหลังเกษียณเถอะครับ ท่านไม่มีประโยชน์กับชาติอีกต่อไปแล้ว บ่องตง วันนี้คุณคือจุดอ่อน... เชิญค่ะ !!
ซึ่งก็มีคนเข้ามาคอมเมนท์แสดงความคิดเห็นกันมากมาย โดยบางส่วนบอกว่ามีการจำกัดคิวออนไลน์จำนวนหนึ่ง ส่วนที่เหลือก็ต้องไปต่อแถวเหมือนเดิม และต้องใช้เวลารอนานเกือบทั้งวันกว่าจะได้ทำ จึงอยากให้มีการแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้ เป็นต้น
