x close

สมเด็จพระเทพฯ ทรงทอดผ้าไตรบังสุกุล ในพระราชทานเพลิงศพสมเด็จเกี่ยว

กำหนดการพิธีพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จเกี่ยว

พระราชทานเพลิงศพสมเด็จเกี่ยว อุปเสโณ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์

 
          พระราชทานเพลิงศพสมเด็จเกี่ยว อุปเสโณ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (9 มีนาคม 2557) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทอดผ้าไตรบังสุกุล ในการพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จเกี่ยว ณ วัดเทพศิรินทราวาส ประชาชนหลั่งไหลร่วมพิธีเนืองแน่น

          วันนี้ (9 มีนาคม 2557) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์  ในการพระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ หรือ สมเด็จเกี่ยว อุปเสโณ อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และอดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ณ ศาลาการเปรียญ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร และเมรุหลวง หน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส
 
โดยมีกำหนดการ พระราชทานเพลิงศพสมเด็จเกี่ยว อุปเสโณ วันนี้ (9 มีนาคม 2557) ดังนี้

           เวลา 07.00 น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารเช้า ถวายเครื่องไทยธรรม ทอดผ้าไตรบังสุกุล กรวดน้ำ รับพร

            เวลา 09.00 น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 100 รูป พิจารณาผ้าไตรบังสุกุล

            เวลา 10.30 น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูป ถวายพรพระ และรับพระราชทานฉัน

            เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล แก่พระภิกษุ สามเณร จำนวน 500 รูป

            เวลา 12.30 น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์พิจารณาผ้าไตรบังสุกุล

            เวลา 13.00 น. เชิญโกศศพขึ้นรถวอจัตุรมุข ไปยังเมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส แล้วเชิญขึ้นตั้งบนจิตกาธาน

            เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชทานเพลิงศพ
               
          ทั้งนี้ ขบวนรถเชิญโกศสมเด็จพระพุฒาจารย์ จะใช้เส้นทางจากวัดสระเกศฯ เลี้ยวขวาสี่แยกแม้นศรี เลี้ยวขวาแยกกษัตริย์ศึก ไปทางถนนกรุงเกษม เลี้ยวขวาแยกนพวงษ์ ไปตามถนนหลวง ก่อนเลี้ยวขวาเข้าวัดเทพศิรินทร์ ซึ่งขบวนนี้ จัดเป็นขบวนการเคลื่อนพระศพสมเด็จพระราชาคณะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ มีพระสงฆ์แสดงความจำนงเข้าร่วมขบวนแล้วกว่า 20,000 รูป และชาวพุทธจากต่างประเทศอีก 2,000 คน โดยในวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2557 เวลา 07.00-08.00 น. จะมีการเชิญอัฐิเจ้าประคุณ สมเด็จฯ กลับยังวัดสระเกศฯ 

          ล่าสุด เวลาประมาณ 13.00 น. รถขบวนและรถวอจัตุรมุขเชิญโกศศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ได้เคลื่อนออกจากวัดสระเกศฯ เคลื่อนไปยังเมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส โดยขบวนหลวงมีรถพระนำ 2 คัน ขบวนรถโบราณเชิญพัศยศ ต่อด้วยรถวอจัตรุมุขเชิญโกศ รถโบราณเชิญเครื่องทองน้อย รถผู้อัญเชิญเครื่องยศ ขณะที่อัฐบริขาร ประกอบด้วย พระสุพรรณบัฏ ขันน้ำมีฝาชีหุ้มผ้าขาว คนโฑกาน้ำทรงกระบอก กระโถนเล็กทรงกระทาย ถาดล้างหน้า กระโถนปากแตร พานหมาก หีบตราจักรี และบาตร

          นอกจากนี้ ยังมีขบวนเกียรติยศ นำโดยพุทธศาสนิกชนชุดขาว ถือพานพุมสายสิญจน์ พานดอกบัว เครื่องทองน้อย พานปักพัดยศสมเด็จ กรวยกระทงดอกไม้ พานพุ่มดอกไม้จันทน์ ต่อด้วยขบวนพระสงฆ์จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) มีหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนสมเด็จเกี่ยวอีกด้วย อีกทั้งยังมีพระสงฆ์จากจังหวัดต่าง ๆ พระะรรมฑูตไทยทั่วโลก และผู้นำชาวพุทธ 40 ประเทศทั่วโลก และมีพุทธศาสนิกชนร่วมใส่ชุดขาวร่วมขบวน

          ขณะที่วัดเทพศิรินทราวาส ได้กำหนดจุดวางดอกไม้จันทน์ 3 จุด ได้แก่ บริเวณเมรุหลวง, บริเวณเมรุเล็ก และบริเวณหน้าพระอุโบสถ ส่วนวัดสระเกศฯ จะมีจุดวางดอกไม้จันทน์ที่ลานจอดรถหน้าศาลาการเปรียญด้วย คาดว่าจะมีผู้มาร่วมพิธีในวันนี้มากกว่า 70,000 คน

         
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในการพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ หรือ สมเด็จเกี่ยว อุปเสโณ ณ เมรุหลวง หน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส โดยจะทรงทอดผ้าไตรบังสุกุล เสด็จพระราชดำเนินขึ้นเมรุ และพระราชทานเพลิง ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นพิธีพระราชทานเพลิงแล้ว ก็จะเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชน เข้าวางดอกไม้จันทน์ โดยมีการจัดสถานที่ไว้ 3 จุด เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน เนื่องจากมีผู้ศรัทธาเลื่อมใสใน สมเด็จพระพุฒาจารย์ หรือ สมเด็จเกี่ยว มาร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก

         
ส่วนกำหนดการในการพระราชทานเพลิงศพสมเด็จเกี่ยว  ในวันพรุ่งนี้ (10 มีนาคม 2557) มีดังนี้

            เวลา 07.00 น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 3 รูป พิจารณาผ้าไตรบังสุกุลและรับพระราชทานภัตตาหารสามหาบในการเก็บอัฐิ จากนั้นเวลา

            เวลา 08.00 น. จะมีการเชิญอัฐิสมเด็จพระพุฒาจารย์ กลับยังวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

            เวลา 10.30 น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ ฉลองอัฐิ จบแล้วถวายภัตตาหารเพล ถวายเครื่องไทยธรรม ทอดผ้าไตรบังสุกุล กรวดน้ำ รับพร

            เวลา 11.00 น. จะเป็นการถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุ สามเณร จำนวน 500 รูป เป็นอันเสร็จพิธี

          ประวัติ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) เกิดเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2471 ณ บ้านเฉวง ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2484 ที่วัดสว่างอารมณ์ ต.บ่อผุด โดยมีเจ้าอธิการพัฒน์เป็นพระอุปัชฌาย์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ได้ศึกษาธรรมะจนสอบได้นักธรรมชั้นเอกและศึกษาปริยัติธรรมจนสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร โดยอุปสมบทในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2492 ที่วัดสระเกศ เมื่อปี พ.ศ. 2492 เป็นพระสงฆ์มหานิกายและอดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เป็นพระเถระที่มีอาวุโสโดยสมณศักดิ์สูงสุดของมหาเถรสมาคม ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดฯ สถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระราชาคณะ ชั้นสุพรรณบัฏ เมื่อปี พ.ศ. 2533 มีนามตามจารึกในสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ ภาวนากิจวิธานปรีชา ญาโณทยวรางกูร วิบูลวิสุทธิจริยา อรัญญิกมหาปริณายก ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี

          ทั้งนี้สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระอาการประชวรและเสด็จเข้าประทับรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อปี พ.ศ. 2545 มหาเถรสมาคม จึงแต่งตั้งให้สมเด็จพระพุฒาจารย์ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ต่อมาการแต่งตั้งนั้นได้สิ้นสุดลงเพราะครบระยะเวลาที่กำหนด มหาเถรสมาคมจึงมีมติให้แต่งตั้ง คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อบริหารกิจการคณะสงฆ์แทนสมเด็จพระญาณสังวรฯ โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ในฐานะมีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ในขณะนั้นทำหน้าที่เป็นประธาน


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สมเด็จพระเทพฯ ทรงทอดผ้าไตรบังสุกุล ในพระราชทานเพลิงศพสมเด็จเกี่ยว อัปเดตล่าสุด 9 มีนาคม 2557 เวลา 18:19:16 20,932 อ่าน
TOP