เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
เฉลิม อยู่บำรุง เชื่อ สุเทพ เทือกสุบรรณ อยากแตกหัก ชี้สงครามเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น แต่สิ่งที่น่ากลัวคือรัฐบาลไม่มีอำนาจ ขนาดออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังใช้การไม่ได้
เมื่อเวลา 10.30 น. ของวันนี้ (10 มีนาคม 2557) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการ รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กล่าวถึงกรณีด่านตรวจความมั่นคง จับนายทหาร ร.31 ลพบุรี พร้อมอาวุธสงคราม ที่ ซ.หลังสวน ในช่วงดึกวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า การตั้งด่านความมั่นคง ใกล้กับเวทีชุมนุมของ กปปส. และการจับกุมนายทหารดังกล่าวถือเป็นนโยบายของ ศรส.
เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่า ตรวจพบอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก ปืนสั้น 11 มิลลิเมตร 1 กระบอก และกระสุนกว่า 2,000 นัด ซึ่งตรงนี้น่ากลัว เพราะผู้ต้องหาให้การเพียงว่า เป็นเจ้าของของกลางดังกล่าว แต่ยอมบอกว่าจะนำไปที่ไหน ซึ่งการที่มีอาวุธกับกระสุนอยู่ด้วยกันก็ต้องนำไปใช้อยู่แล้ว
ทั้งนี้ ตนเคยบอกมาตลอดว่า ตนค่อนข้างมีความเห็นแตกต่างจากฝ่ายความมั่นคงในบางเรื่อง ถึงแม้ว่า กปปส. จะไปรวมเวทีที่สวนลุมพินีและบอกว่าจะไม่เคลื่อนไหว แต่จะเชื่อได้อย่างไรว่าจะไม่มีการก่อเหตุใด ๆ ขึ้น
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะตนไปประเทศสิงคโปร์เพื่อเยี่ยมพ่อเพื่อนที่ป่วย ก็ได้รับรายงานข่าวว่า มีคาราวานจาก จ.กระบี่ พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และชุมพร เข้ามาที่ กทม. ซึ่งเห็นได้ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ต้องการจะล้มรัฐบาลให้ได้ ด้วยการขับไล่ นายกฯ และตระกูลชินวัตร จากนั้นจึงมีการปฏิรูปการเมืองก่อนนำไปสู่การเลือกตั้ง
ส่วนพรรคเพื่อไทยและตนยึดมั่นว่า เมื่อการเลือกตั้งเริ่มแล้วก็ควรจัดการเลือกตั้งให้เสร็จ เพื่อให้มีรัฐบาลใหม่มาจัดการปฏิรูปก่อนยุบสภาสู่การเลือกตั้งอีกครั้ง แต่ฝ่าย กปปส. ไม่ยอม และนายสุเทพ ไม่ได้มาคนเดียว เขามีพวกอีกเยอะ ตนไม่อยากเห็นการเผชิญหน้า จึงบอกไปว่า อยากพบกับนายสุเทพ แต่เมื่อนายสุเทพไม่พบ แสดงว่าอยากแตกหัก
การที่พรรคเพื่อไทยไม่ยอม ก็เพราะมาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ อยู่ ๆ มีคนมาล้มล้างมันก็ไม่ชอบธรรม แต่ถ้าองค์กรอิสระตัดสินก็น่ากลัวเหมือนกัน นอกจากนี้ นายสุเทพยังประกาศว่า จะรอ ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญตัดสินรัฐบาล กรณีโครงการจำนำข้าว แล้วอย่างนี้จะไปปฏิรูปได้ยังไง ตนเชื่อว่า สงครามเพิ่งเริ่มต้นขึ้น เหตุการณ์ทรงนี้ไม่มีทางสงบ ต้องแตกหักกันไปข้าง
ตนขอฟันธงว่า เรื่องนี้น่ากลัว แต่อย่าไปใช้คำว่าสงครามกลางเมือง ตนอยู่ในวงการการเมืองมานาน ที่ผ่านมาก็พูดมาตลอด พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ตนก็ห้าม แต่ก็ไม่เชื่อ แล้วเป็นยังไง ตนห้ามอะไรแล้วผิดไหม ในเมื่อไม่ฟังก็บังคับอะไรไม่ได้
ร.ต.อ.เฉลิม ทิ้งท้ายว่า วันนี้มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็เหมือนไม่มี เพราะศาลแพ่งออกข้อห้ามมา 9 ข้อ ทำให้เหมือนมีแต่ชื่อ ถ้าต่ออายุไปโดยมีข้อห้ามก็ไม่มีประโยชน์อะไร ตอนนี้รัฐบาลอยู่ในภาวะลำบาก ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของ ครม. ในการหามาตรการดูแลความสงบ หากไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ไม่ใช่หน้าที่ตน เพราะตนอยู่กระทรวงแรงงาน ศรส. เป็นเพียงงานเฉพาะ
ส่วนประเด็นข้อกฎหมายคงต้องเป็นเรื่องของกระทรวงยุติธรรม จะปรับไปใช้ พ.ร.บ.มั่นคง หรือไม่ ต้องแล้วแต่นายกฯ แต่ตนคิดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่ซ้ำรอยปี 2553 เนื่องจากครั้งนั้นรัฐบาลมีอำนาจเต็ม แต่ครั้งนี้รัฐบาลไม่มีอำนาจ ขนาดออก พ.ร.ก. ยังใช้ไม่ได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
