เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
พายุฤดูร้อนพัดถล่มภาคอีสาน ซัดบ้านเรือนพังเสียหายหลายจังหวัด ขอนแก่นเจอน้ำท่วมขัง ด้าน ปภ. เตือน 25 จังหวัดภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมรับมือพายุฤดูร้อนระลอกใหม่
หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ระวังพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนประชาชนนั้น ล่าสุด วันนี้ (22 มีนาคม 2557) ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครราชสีมา ได้รายงานความเสียหายจากพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนประชาชน จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 19-21 มีนาคม 2557 โดยพบว่า มีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายแล้วทั้งสิ้น 11 อำเภอ ประกอบด้วย ขามทะเลสอ สีคิ้ว สูงเนิน โนนแดง ประทาย คง โนนสูง โนนไทย พระทองคำ เมืองยาง และลำทะเมนชัย ส่งผลให้บ้านเรือนระชาชนเสียหาย จำนวน 893 หลังคาเรือน มีประชาชนเดือดร้อนกว่า 4,000 ราย
ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ รายงานความเสียหายภาพทั้งจังหวัด พบว่า มีเพียง อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ ที่ได้รับผลกระทบ โดยบ้านเรือนประชาชน ใน 4 ตำบล 6 หมู่บ้าน เสียหายจำนวน 20 หลังคาเรือน และยุ้งฉางข้าว เสียหายจำนวน 1 หลัง
ขณะที่ใน จ.ขอนแก่น พบว่ามีฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา จนถึงรุ่งเช้าของวันนี้ ทำให้น้ำท่วมถนนหลายสาย โดยเฉพาะในเขตเทศบาลที่ระบายน้ำไม่ทัน ขณะที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดบางลำภูและตลาดสดเทศบาล 1 ต่างได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากน้ำท่วมบริเวณทางเข้าตลาดซึ่งเป็นจุดรับส่งของสำหรับผู้ที่ซื้อของไปขายต่อ ทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดเป็นอย่างมาก
ด้าน จ.กาฬสินธุ์ ได้เกิดพายุฤดูร้อนติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนพังเสียหายกว่า 300 หลังคาเรือน ใน พื้นที่ 9 อำเภอ ประกอบด้วย อ.นาคู อ.หนองกุงศรี อ.ร่องคำ อ.ท่าคันโท อ.เมือง อ.สามชัย อ.นามน อ.สมเด็จ และ อ.กมลาไสย
ส่วนใน จ.สกลนคร พบว่า พายุที่พัดกระหน่ำอย่างรุนแรงตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดองค์เจดีย์พระธาตุเชิงชุม อ.เมืองสกลนคร ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นใหม่สูง 24 เมตร ครอบพระธาตุองค์เดิม ถูกลมพัดจนเอียงกว่า 35 องศา โชคดีที่ไม่หักโค่น เนื่องจากนั่งร้านที่อยู่ระหว่างการบูรณะปรับปรุงได้พยุงยอดเจดีย์ไว้ ซึ่งทางวัดได้ติดป้ายห้ามประชาชนเข้าใกล้บริเวณดังกล่าวแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่ายอดองค์พระธาตุเจดีย์เสียหายมากน้อยแค่ไหน
ด้าน จ.อุดรธานี มีรายงานว่า บ้านเรือนประชาชนใน ต.หนองแสง ต.ทับ และ ต.นาดี พังเสียหายรวม 422 หลัง นอกจากนี้สวนยางพารา ยังได้รับความเสียหายประมาณ 120 ไร่ ส่วนที่ จ.หนองบัวลำภู พบว่า บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ต.นาแก และ ต.นาเหล่า อ.นาวัง รวม 10 หมู่บ้าน ได้รับความเสียหายรวม 54 หลัง
ทั้งนี้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวถึงสภาพอากาศตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา โดยระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางยังคงแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและจะแผ่เข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบนต่อเนื่องจนถึงวันที่ 23 มีนาคม
ประกอบกับในระยะนี้จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศพม่าเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ซึ่งลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่
ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ แพร่ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ นครราชสีมา ชัยภูมิ ลพบุรี สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
