นาทีเหี้ยม ! หนุ่มลั่นไกยิงเพื่อนร่วมงานดับ หลังผิดใจปมถูกกดหัวเราะบนเฟซบุ๊ก

            ระทึกกลางเมืองภูเก็ต พนักงานห้างแผนกเดียวกัน ผิดใจกันในโซเชียล เหตุส่งอีโมจิหัวเราะ อีกฝ่ายไม่พอใจพกเหล็กยาวดักรอทำร้าย แต่โดนคู่กรณียิงสวนดับ 1 เจ็บ 1

          เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณถนนทางออกด้านหลังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน ต.รัษฏา อ.เมือง จ.ภูเก็ต วันที่ 30 ธันวาคม 2563 ตำรวจพบร่างผู้เสียชีวิตนอนหงายบนถนน เลือดไหลนองศีรษะ ทราบชื่อ นายสัณเพชร อายุ 31 ปี เป็นเจ้าหน้าที่แผนกดูแลระบบงานมินิมาร์ทสาขาฯ ของห้างดังกล่าว ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์จอดอยู่ ที่พื้นข้างตัวพบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง กระสอบปุ๋ยภายในมีเหล็กยาว ประมาณ 100 เซนติเมตร 1 อัน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นทีมแพทย์ร่วมชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้น ก่อนให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล

        ขณะที่ผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ซึ่งเป็นเพื่อนผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายอัครพล 31 ปี ถูกยิงบริเวณลำคอทะลุบริเวณหลังหูด้านขวา เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้า ซึ่งแพทย์อยู่ระหว่างให้การช่วยเหลือ โดยผู้บาดเจ็บยังรู้สึกตัวดี

        ส่วนผู้ก่อนเหตุ คือ นายอัครวัฒน์ อายุ 37 ปี หลังก่อเหตุได้โทร. ไปที่ 191 เพื่อมอบตัวก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมารับตัวไปยัง สภ.เมืองภูเก็ต ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำก่อนแจ้งข้อกล่าวหา

        จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ตายและนายอัครวัฒน์ ผู้ก่อเหตุ ทำงานอยู่แผนกเดียวกันแต่อยู่ละชุด ทั้งสองมีปัญหากันในโซเชียล ซึ่งผู้ก่อเหตุระบุว่า ได้โพสต์ภาพลงในสตอรี่เฟซบุ๊ก ก่อนที่ผู้ตายจะเข้ามาแสดงสติ๊กเกอร์หัวเราะ ผู้ก่อเหตุจึงอัปรูปปืนขึ้นสตอรี่อีกครั้ง จากนั้นมีการพูดคุยผ่านข้อความส่วนตัว ผู้ก่อเหตุถามผู้ตายว่า ส่งสติ๊กเกอร์หัวเราะทำไม และผู้ตายตอบกลับว่า ทำไมจะส่งไม่ได้ จึงเกิดความไม่พอใจกันขึ้น

        ก่อนเกิดเหตุผู้ตายไม่มาทำงานเนื่องจากเป็นวันหยุด จึงขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมเพื่อน คือนายอัครพล ผู้บาดเจ็บ เพื่อดักรอนายอัครวัฒน์ ผู้ก่อเหตุ โดยผู้ตายนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์และพกเหล็กยาวใส่กระสอบปุ๋ยมาด้วย ต่อมาผู้ก่อเหตุเดินออกมาที่จุดจอดรถอยู่ใกล้เคียง ผู้ตายจึงเดินไปหาพร้อมพยายามชักเหล็กที่เตรียมมาจะเข้าทำร้าย แต่ผู้ก่อเหตุได้ชักปืนยิงโต้ตอบทันที จากนั้นได้ขับรถเก๋งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว และตัดสินใจโทร. 191 เพื่อขอมอบตัว พร้อมนำอาวุธปืนลูกโม่ขนาด 0.38 มอบให้เจ้าหน้าที่ ก่อนจะพาไปสอบปากคำที่โรงพัก