เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ LAKORNHD Thaitv (Official) สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ข่าวพระแต่งหญิง ฉายานาตาลีร้อยหน้า พบเป็นพระวัดดังกลางกรุง อักษรย่อ ม. ชื่อ พระมหานภัทร์สรณ์ แฉในเฟซบุ๊กพระแต๋ว มีข้อความไปเที่ยวผับ เที่ยวบาร์ ตบกะเทยรุ่นน้อง ลั่นเรียนจบก็สึกซิ จะอยู่ทำไม
วันนี้ (17 เมษายน 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ได้นำเสนอข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับ พระมหาวิทยาลัยสงฆ์ชื่อดังแต่งหญิงและโพสต์ภาพอวดในเฟซบุ๊ก จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากภาพดังกล่าวสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงและกระทบต่อความศรัทธาในพระพุทธศาสนา
ทั้งนี้ นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า ตนเห็นภาพและทราบเชื่อดังกล่าวแล้ว และล่าสุดตนก็ได้รับเบาะแสและข้อมูลจากสมาชิกเครือข่าย โดยพบว่า พระสงฆ์ดังกล่าว ชื่อว่า "พระมหานภัทร์สรณ์" ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า "นู๋ร๊ากผัวเขา ผัวเขาก้อร๊ากหนู" มีฉายาว่า "นาตาลีร้อยหน้า" เป็นพระวัดดังอักษรย่อ "ม." อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ แต่ที่ยังไม่เปิดเผยชื่อวัด เพราะต้องการตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้ง
นอกจากภาพที่ พระมหานภัทร์สรณ์แต่งหญิงโพสต์ลงในเฟซบุ๊กแล้ว เมื่อตรวจสอบก็พบว่ามีข้อความที่สนทนาค่อนข้างไม่เหมาะสม อาทิ
วันนี้ไปตบกะเทยน้อยมารู้สึกเจ็บทั้งตัว ที่เจ็บที่สุด คือ นิ้ว แต่ก็ภาคภูมิใจ ที่ไปถิ่นเขาและเอาชนะกลับมาได้ ป.ล.ไม่ค่อยสบายขอตัวพักผ่อนก่อนนะ งดเที่ยว งดให้ผู้ชายเ..ด โฟกัสรักแฟนคลับทุกคนนะคะ
กูเรียนจบ กูก็สึกสิจะอยู่ทำไม
เวลาว่างของกะเทยส่วนกลาง กินเสร็จหากินผู้ชาย เล่นไพ่ ลาก่อนอยุธยา เจอกันในกรุงเทพฯ นะ
เธอจะสวยแค่ไหนผู้ชายเขาไม่เลือกหรอก ผู้ชายสมัยนี้ชอบกะเทย แรง มีเงิน หุ่นดี ปากจัด กล้าแสดงออกว่าเมียกูแรงจริง สวยมากสวยน้อยเสียเงินเท่ากัน แต่โฟกัสเสียน้อย เพราะสวย แรง หุ่นดี แต่มึงอ่ะผีเลยต้องทุ่ม ป.ล. นภัทร์สรณ์ โฟกัส อำนาจเงินใหญ่ที่สุด สมัยนี้สวยแค่ไหนกูก็เห็นสี่ดากผู้ชายหมด
โดยนายสงกรานต์ กล่าวว่า ข้อความเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า บุคคลดังกล่าวไม่ได้ศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาเลย และจากข้อมูลที่ตนได้รับมา มีการระบุว่า พระรูปดังกล่าวเที่ยวผับ เที่ยวบาร์ ได้ผู้ชาย ซึ่งการเป็นพระหากมีการเสพเมถุนหรือเสพสังวาสแล้ว ก็ถือว่า ปาราชิก ไม่สามารถกลับมาบวชได้ใหม่ ถือว่าเป็นการสิ้นสุดการเป็นพระสงฆ์แล้ว
ส่วนในเวลา 14.00 น. ของวันนี้ (17 เมษายน 2557) นายสงกรานต์ จะนำภาพลับเฉพาะ รวมถึงข้อมูลหลักฐานทั้งหมดของบุคคลดังกล่าว ไปร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ประสบโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการกองปราบปราม เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
ขณะที่ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ตนได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วเช่นกัน แต่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่า บุคคลในเฟซบุ๊กเป็นพระจริงหรือไม่ และอยู่ในสังกัดใด เพื่อที่จะให้เจ้าคณะปกครองดำเนินการตามความเหมาะสม ส่วนการบวชนั้นที่ผ่านมาก็คัดกรองคนบวชอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว โดยเฉพาะบุคคลที่มีพฤติกรรมที่สื่อไปในเพศที่ 3 อย่างชัดเจน ก็จะไม่ให้บวช แต่ยอมรับว่า ที่ผ่านมาเจ้าอาวาสและพระอุปัชฌาย์ ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีพฤติกรรมเบี่ยงเบนก่อนมาบวช แต่จะพบก็เมื่อได้รับการบวชไปแล้วระยะหนึ่ง
นายนพรัตน์ กล่าวต่อว่า หากพบว่าพระสงฆ์หรือสามเณรที่แสดงอาการและพฤติกรรมไม่มากนัก อาทิ การเดิน การพูด เป็นต้น เจ้าอาวาสหรือเจ้าคณะปกครองพิจารณาแล้วว่า หากไม่เป็นอันตรายต่อพระพุทธศาสนา ก็ให้บวชต่อไปได้ ในส่วนที่พบว่ามีพระสงฆ์และสามเณรบางกลุ่มออกไปเที่ยวกลางคืนนั้น เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ซึ่งหากเป็นเรื่องจริง เจ้าคณะปกครองก็จะต้องจัดการ