

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
ชาวประมงชุมพรอึ้ง พบกุ้งยักษ์ หรือกุ้งจังโก้ น้ำหนักถึง 5-6 ตัว/กิโลกรัม ในรอบ 10 ปีที่ทะเลอ่าวไทย เชื่อการปิดอ่าวช่วงฤดูวางไข่ทำท้องทะเลไทยสมบูรณ์ขึ้น
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2557 นายสมพงษ์ พ่วงสะอาด เลขาฯ สมาคมชาวประมงเรืออวนซั่งและเรือร่วมปากน้ำชุมพร เปิดเผยเรื่องการค้นพบกุ้งยักษ์ หรือกุ้งจังโก้ในอ่าวไทยว่า หลังจากที่กรมประมงได้ประกาศปิดอ่าวช่วงฤดูสัตว์น้ำวางไข่นาน 3 เดือน คือ ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์-15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประกาศปิดอ่าวไทย ก็มีชาวประมงจำนวนมากได้ออกเรือเพื่อจับสัตว์น้ำตามปกติ โดยครั้งนี้ชาวประมงสามารถจับสัตว์น้ำได้เป็นจำนวนมาก แถมสัตว์น้ำที่จับได้บางชนิดยังเป็นสัตว์น้ำที่หายไปจากทะเลไทยนานกว่า 10 ปี อย่าง กุ้งจังโก้ หรือจัมโบ้ ซึ่งถือว่าเป็นพ่อแม่พันธุ์กุ้งกุลาดำที่หายากมาก เพราะเมื่อตัว 10 ปี ที่แล้ว มีการรับซื้อกุ้งจังโก้ เพื่อนำไปทำเป็นพ่อแม่พันธุ์ ในราคาตัวละ 2,000-3,000 บาท ทำให้กุ้งกุลาดำในธรรมชาติ แทบหายไปจากทะเล ซึ่งเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของอ่าวไทยหลังประกาศปิดอ่าวได้เป็นอย่างดี
นายสมพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา การที่ชาวประมงจะสามารถจับกุ้งจังโก้ ตัวขนาดใหญ่ 5-6 ตัวต่อกิโลกรัมได้ถือว่าเป็นเรื่องยากมาก โดยเฉพาะช่วง 10 ปีที่ผ่านมาด้วยแล้ว ซึ่งมีการจับกุ้งจังโก้เพื่อทำพ่อแม่พันธุ์ ก็ทำให้อ่าวไทยแทบไม่เหลือกุ้งจังโก้ให้จับอีกเลย แต่ปีนี้ พอเปิดอ่าวไทยชาวประมงกลับพบกุ้งจังโก้มากเป็นพิเศษ แสดงให้เห็นว่า ในทะเลอ่าวไทยมีการขยายพันธุ์ของสัตว์น้ำเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นสัตว์น้ำประเภทกุ้งแชบ๊วย, กุ้งแซะ, หอยเซลล์ขนาดใหญ่ และขนาดกลาง เป็นต้น
ขณะที่ นายจรูญศักดิ์ เพชรศรี หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลภาคใต้ตอนบน จังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า การประกาศห้ามใช้เครื่องมือบางชนิดทำการประมงในฤดูปลามีไข่วางไข่และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน ในพื้นที่ 26,400 ตารางกิโลเมตร บริเวณอ่าวไทยตอนกลาง ซึ่งเป็นบริเวณบางส่วนของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี เพื่ออนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ ทำให้พบว่า จำนวนสัตว์น้ำประเภทต่าง ๆ มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด
**หมายเหตุ : แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 29 พฤษภาคม 2557
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







