เมื่อวันที่ 8 เม.ย. นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคไทยรักไทยจะเชิญ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ หากพรรคไทยรักไทยถูกตัดสินยุบพรรค ทำให้กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิทางการเมืองว่า ยังไม่มีการหารือกับ พล.อ.ชวลิต และยังไม่มีการเตรียมการ หากพรรคไทยรักไทยถูกตัดสินในคดียุบพรรค โดยแกนนำพรรคและอดีต ส.ส.ของพรรคจะร่วมฟังคำตัดสิน โดยบางส่วนจะไปที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ อีกส่วนจะรอฟังข่าวอยู่ที่ที่ทำการของพรรค
และหลังจากฟังแล้วผลออกมาเป็นอย่างไร จากนั้นจะมีการประชุมเพื่อกำหนดทิศทาง และท่าทีของพรรคต่อไป ฉะนั้นที่เป็นข่าวว่าจะเชิญใครมาเป็นหัวหน้า ยังไม่มีการคุยในเรื่องนี้ แต่อาจเป็นไปได้ที่มีนักการเมืองบางคนไปคิดกัน แต่แกนนำยังไม่คิดเรื่องนี้
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 30 พ.ค. พรรคจะไม่ดำเนินการทางการเมืองใดๆ จะไม่มีการสั่งการให้นักการเมืองของพรรคเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ในลักษณะกดดันตุลาการ และขอร้องให้คนที่มีเจตนาดีเคลื่อนไหวให้ยุติการเคลื่อนไหว โดยจะตามไปขอร้องและห้ามปราม จึงขอให้สังคมสบายใจได้ว่า พรรคไทยรักไทยจะไม่เคลื่อนไหวเพื่อกดดันตุลาการรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีอิสระอย่างแท้จริงในการตัดสินคดีนี้ และจะรับผลการตัดสินนั้น และเมื่อตัดสินแล้วก็ต้องหารือถึงทิศทางการเมืองต่อไป
ส่วนพีทีวีเราไม่หารือ แต่ถ้าพีทีวีหรือใครก็ตามจะไปกดดันเพื่อพรรคไทยรักไทย เราก็ต้องตามไปขอร้อง และเชื่อว่าคงไม่มีใครทำ เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรขณะที่ประกาศ คปค.ยังไม่เปิดโอกาส นายจาตุรนต์ตอบว่า ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ตอนนี้เราประเมินว่าไม่น่าจะถูกยุบ
นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า ในระยะหลังพบว่า พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธาน คมช. มักแสดงความเห็นทางการเมือง ในลักษณะที่ไม่น่าจะเป็นผลดีต่อการสมานฉันท์ โดยเฉพาะการที่ประธาน คมช.พูดว่า มีมวลชนเรือนแสนที่พร้อมจะสนับสนุน ในขณะที่ฝ่ายรัฐต้องดูแลการชุมนุมของประชาชนในขณะนี้นั้น อาจทำให้คนเข้าใจว่าเป็นการไฟเขียว หรือสร้างเงื่อนไขว่าอาจจะมีการปะทะกัน ผู้นำประเทศควรพูดเพื่อให้คนมีความรู้สึกที่ดี ใครจะชุมนุมก็ต้องดูแลความสะดวก และป้องกันไม่ให้ใช้ความรุนแรง
ส่วนนายกฯที่ภายหลังเริ่มปรับท่าทีให้เข้มข้นขึ้น เหมือนถูกกดดันจาก คมช.หรือพันธมิตรฯ โดยเฉพาะกรณีที่พูดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาประเทศไทยไม่ได้ เพราะมีหลายคดีนั้น จะทำให้คนที่เห็นใจ พ.ต.ท.ทักษิณ รู้สึกโกรธมากยิ่งขึ้น ไม่เป็นผลดีต่อการสมานฉันท์ แถมยังขัดแย้งกันเอง เพราะคนมีคดีต้องมาขึ้นศาล จะขัดคำสั่งศาลไม่ได้