
นพพร ศุภพิพัฒน์ ประวัติมหาเศรษฐีหนุ่มคนดัง ผู้พัวพันเครือข่าย พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร, whomagmedia.com
เปิดประวัติ นพพร ศุภพิพัฒน์ มหาเศรษฐีหนุ่มอันดับ 31 ของประเทศไทย กับธุรกิจพลังงานลมที่ลงมือบุกเบิกจนร่ำรวย ก่อนถูกออกหมายจับในคดีที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายบิ๊กกิ๊ก พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์
คดีของ พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ หรือ บิ๊กกิ๊ก อดีต ผบช.ก. และพวก ที่ถูกจับกุมในหลายข้อหา กลายเป็นคดีใหญ่ที่สังคมสนใจใคร่ติดตามมากที่สุดในรอบสองสัปดาห์ที่ผ่านมา และจนถึงวันนี้ (3 ธันวาคม 2557) เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงสืบสวนขยายผลผู้ร่วมขบวนการ พร้อมเปิดชื่อผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องออกมาอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งล่าสุดชื่อของ "นพพร ศุภพิพัฒน์" มหาเศรษฐีอันดับที่ 31 ของประเทศไทย ก็เข้าไปพัวพันกับคดีดังครั้งนี้ ภายหลังศาลทหารกรุงเทพได้อนุมัติออกหมายจับ ในฐานะผู้จ้างวานให้ผู้ต้องหาในเครือข่ายคดีของ พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ขู่บังคับ นายบัณฑิต โชติวิทยะกุล ให้ลดหนี้จาก 120 ล้านบาท เหลือ 20 ล้านบาท
"นพพร ศุภพิพัฒน์" หรือ นิค ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด เพิ่งจะได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ ไทยแลนด์ ประจำปี 2557 ให้เป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 31 ของประเทศไทย และด้วยวัยเพียง 43 ปี ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุด
เส้นทางมหาเศรษฐีของ "นพพร ศุภพิพัฒน์" เริ่มมาตั้งแต่ตอนอายุ 21 ปี ที่เขาได้กำไรมาจากการเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เกือบ 26 ล้านบาท แต่เงินเหล่านั้นก็สูญไปกับการลงทุนทำนิตยสาร ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จ จนต่อมาในปี พ.ศ. 2548 นายนพพร ศุภพิพัฒน์ ได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก นายประเดช กิตติอิสรานนท์ อดีตวิศวกรของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในการริเริ่มบุกเบิกอุตสาหกรรมพลังงานลม เขาได้เปิดบริษัท เขาค้อพลังงานลม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ซัสเทนเอเบิล เอนเนอยี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในฐานะผู้พัฒนาโครงการพลังงานลมแห่งแรกของประเทศไทย ประกอบกับได้รับอานิสงส์จากนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนพลังงานทางเลือก ทำให้ธุรกิจพลังงานลมของ นพพร ศุภพิพัฒน์ ประสบความสำเร็จ

หลังจากนั้น นพพร ศุภพิพัฒน์ ก็ได้เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จด้วยการจับมือกับพันธมิตรบริษัทต่าง ๆ เพื่อขยายโครงการอย่างต่อเนื่อง นำมาสู่การจัดตั้ง บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ที่ทำให้เขาเป็นเจ้าของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลม มีทรัพย์สินมูลค่า 25,600 ล้านบาท และได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาเศรษฐีของประเทศไทย ประจำปี 2557
ปัจจุบัน บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด มีโครงการลงทุนและทำสัญญาซื้อ-ขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) รวม 12 โครงการ โดยมีกำลังการผลิตทั้งสิ้น 930 เมกะวัตต์ และนอกจาก บริษัท วินด์ฯ แล้ว นายนพพร ศุภพิพัฒน์ ยังถือหุ้นบริษัท รีนิวเอเบิล เอนเนอร์ยี คอร์ปอเรชั่น จำกัด มากถึง 74.5% และถือหุ้นบริษัท เน็กซ์โกลบอล อินเวสต์เมนต์ ในฮ่องกง อีก 24.5% รวมทั้งมีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในบริษัทเอกชนอีกจำนวน 10 แห่ง
แต่แล้ว.. มหาเศรษฐีหนุ่มระดับหมื่นล้านกลับสร้างความตกตะลึงให้กับคนในแวดวงธุรกิจ เมื่อมีชื่อเข้าไปพัวพันกับคดีของเครือข่าย พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ในฐานะผู้จ้างวานให้อุ้มเจ้าหนี้มาเจรจาบีบบังคับให้ลดหนี้จาก 120 ล้านบาท ให้เหลือเพียง 20 ล้าน ซึ่งในระหว่างเจรจามีการข่มขู่ผู้เสียหาย และแอบอ้างเบื้องสูง นำมาซึ่งการออกหมายจับพร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทดูหมิ่นสถาบันฯ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ๆ ไม่กระทำการใด ๆ หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น โดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นหรือไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธ โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ นายนพพร ได้หลบหนีการจับกุม และเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป โดยมีข้อมูลว่า นายนพพร ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังประสานงานเพื่อขอตัวกลับมาดำเนินคดี
ทั้งนี้จากการที่ นายนพพร ศุภพิพัฒน์ มีชื่อเข้าไปพัวพันกับคดีดัง ก็ทำให้บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO ซึ่งถือหุ้นบริษัท วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ของนายนพพร เกือบ 4% ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยตลอดวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา หุ้น DEMCO ปรับตัวลดลงต่อเนื่องมาปิดที่ 14.40 บาท ลบ 1.90 บาท หรือคิดเป็น -11.66% และยังร่วงต่อเนื่องในเช้าวันที่ 3 ธันวาคม


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

