ศาลสั่ง กทม. จ่ายชดเชยเหยื่อซานติก้าผับ กว่า 3 แสนบาท

ศาลสั่ง กทม. จ่ายชดเชยเหยื่อซานติก้าผับ กว่า 3 แสนบาท

ศาลสั่ง กทม. จ่ายชดเชยเหยื่อซานติก้าผับ กว่า 3 แสนบาท

          ศาลปกครองกลาง ตัดสินให้ กทม. ชดเชยค่าเสียหายแก่ครอบครัวเหยื่อซานติก้าผับ จำนวน 3 แสนบาท แต่ไม่ยินยอมชดเชยค่าเยียวยาจิตใจ ฝ่ายโจทก์ขออุทรณ์ไปศาลปกครองสูงสุด ด้านตุลาการ บอกเดิมไม่มีกฎหมายในข้อนี้ แต่สามารถเพิ่มได้


        วันนี้ (11 มีนาคม 2558) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า จากกรณีมีผู้ปกครองของผู้เสียชีวิตในเหตุเพลิงไหม้ที่ผับซานติก้า เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2552 ที่ผ่านมา เดินทางไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อฟ้อง กรุงเทพมหานคร ในฐานะละเลยต่อหน้าที่ตามกฎหมายควบคุมอาคาร ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รวมถึงลูกชายของผู้ฟ้องคดีทั้ง 2 ครอบครัว

        โดยก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นมีคำวินิจฉัยตัดสินในเรื่องดังกล่าว กทม. มีความผิดในฐานละเลย เป็นการกระทำที่ถือว่าละเมิดต่อผู้ฟ้องคดีเช่นเดียวกัน จึงดำเนินการส่งต่อไปยังศาลปกครองกลางตัดสิน แต่เนื่องจากสาเหตุหลักมาจากความละเลยของเจ้าของอาคาร และผู้ทำการจุดพลุ ซึ่งเป็นการกระทำละเมิดต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว ดังนั้นศาลปกครองกลาง จึงตัดสินให้ กทม. ชดเชยสินไหมทดแทนแก่ผู้ฟ้องคดีเป็นจำนวนเงิน 20% ของค่าเสียหายที่ผู้ฟ้องคดีสมควรจะได้รับ

        นอกจากนี้ ผู้ฟ้องคือพ่อแม่ ได้เรียกร้องค่าเสียหายทางจิตใจเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาท ศาลปกครองกลางมีความเห็นว่า กรณีการละเมิดให้ถึงแก่ความตายนั้น จะเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเฉพาะกรณีที่บัญญัติไว้ในกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เท่านั้น ได้แก่ค่าปลงศพ ค่าใช้จ่ายอันจำเป็น ค่ารักษาพยาบาลก่อนตาย ค่าขาดประโยชน์หารายได้ก่อนตาย ค่าขาดรายได้อุปการะ และค่าขาดแรงงาน  เมื่อประเมินค่าเสียหายแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาทเท่านั้น เพราะฉะนั้นศาลปกครองกลาง จึงพิพากษาให้ กทม. จ่ายเงินแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตคิดเป็นจำนวนเงิน 20% ของค่าเสียหายดังกล่าว หรือประมาณ 3 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี

        ส่วนเรื่องค่าความเสียหายทางจิตใจไม่มีอยู่ในกฎบัญญัติทางกฎหมายให้เรียกร้องได้ จึงไม่กำหนดค่าเสียหายในส่วนนี้ได้ ซึ่งหลังจากได้ฟังคำพิพากษาแล้วนั้น ทางผู้ฟ้องคือครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้ทำการยื่นอุทรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด และขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาวินิจฉัยของศาล

        อย่างไรก็ดี ตุลาการผู้แถลงคดีในศาลปกครองสูงสุด ได้ออกมาแถลงเกี่ยวกับคดีดังกล่าวว่า เดิมรัฐกับเอกชนมีกฎหมายปกครองร่วมกัน แต่ปัจจุบันได้มีกฎหมายเรื่องศาลปกครองและคดีทางปกครองออกมา จึงทำใหมีการแยกรัฐคือปกครองกรุงเทพมหานคร ส่วนเอกชนคือ เจ้าของผับซานติก้าและผู้ดำเนินการจุดพลุซึ่งเป็นสาเหตุหลักของเพลิงไหม้ครั้งนั้น  เมื่อมีการแยกกันเกิดขึ้น จึงไม่มีบรรทัดฐานมาก่อนว่าจะปกครองทั้งสองฝ่ายกันอย่างไร แต่เมื่อมีกฎหมายเรื่องศาลปกครองออกมาแล้วนั้น ทำให้ศาลปกครองจะได้กำหนดเป็นบรรทัดฐานต่อไป

        ดังนั้นเรื่องเยียวยาทางจิตใจ ก็ควรจะกำหนดขึ้นมาใหม่ได้ ซึ่งปัจจุบันมีการรับรองตามกฎหมายได้จริง ทำให้ครอบครัวผู้เสียหายที่ต้องการเรียกร้องค่าเสียหายทางจิตใจ จากการกระทำละเมิดซึ่งทำให้ถึงแก่ความตายมีขึ้นได้ และคาดว่าจะชำระให้ได้ครอบครัวจำนวนละ 5 แสนบาท รวมเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท ซึ่งเทียบกับค่าทดแทนที่กำหนดให้ในกรณีการชดใช้ค่าเสียหายและการทดแทนการเสียชีวิต รวมถึงให้คืนค่าทำเนียมศาลทั้งหมดแก่ผู้ฟ้องคดีด้วย

        ทั้งนี้จำนวนเงินดังกล่าวไม่รวมกับค่าเสียหายโดยตรง ที่ได้รับจากฝ่ายเอกชน คือผับซานติก้า ซึ่งทางแพ่งจะเป็นฝ่ายดำเนินการให้อีกทางหนึ่ง ส่วนเรื่องเยียวยาทางจิตใจกับผู้สูญเสีย ตนมองว่าน่าจะเป็นบรรทัดฐานใหม่ แม้จะไม่เคยมีกฎหมายรองรับ แต่ศาลปกครองสูงสุดสามารถกำหนดเป็นบรรทัดฐานเยียวยาได้

        อย่างไรก็ตาม การแถลงคดีดังกล่าว เป็นเพียงการแสดงความเห็นในรูปคดีเท่านั้น ไม่ผูกพันกับคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดแต่อย่างใด ดังนั้นคงต้องรอคำพิพากษากจากศาลปกครองสูงสุดต่อไป

        สำหรับเหตุการณ์ไฟไหม้ผับซานติก้า เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2552 ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 61 ศพ บาดเจ็บ 225 คน มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย



world_id:550009e638217a611c000000




ภาพจาก รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร



เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ศาลสั่ง กทม. จ่ายชดเชยเหยื่อซานติก้าผับ กว่า 3 แสนบาท อัปเดตล่าสุด 11 มีนาคม 2558 เวลา 16:32:53 9,398 อ่าน
TOP
x close