เคลียร์แล้ว คดีเก๋งฉุนไม่ให้แทรก-ขับปาดหน้า ก่อนพุ่งเสยเกาะกลางถนน

          ชาวเน็ตแห่แชร์วิดีโอคลิป เก๋งมิตซูบิชิ สีเหลือง สุดกร่าง ฉุนคู่กรณีไม่ยอมให้แทรก ขับปาดหน้า-เบียดเฉี่ยวชน ก่อนเสียหลักพุ่งเสยเกาะกลางถนน ล่าสุด ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ เผยคู่กรณีเคลียร์กันลงตัวด้วยดี

          วันที่ 7 กรกฎาคม 2558 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า ขณะนี้บนโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพคลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์โดย เพจเฟซบุ๊ก มอเตอร์อินเทรนคลับ fm99 เป็นภาพเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกขึ้นได้จากกล้องติดหน้ารถของผู้เสียหาย ซึ่งปรากฏให้เห็นภาพรถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีเหลือง พยายามขับแทรกช่องจราจร แต่เจ้าของคลิปไม่ยอมให้ผ่าน ทำให้รถคู่กรณีคงเกิดอารมณ์โมโหพยายามขับปาดหน้าด้วยเจตนาจงใจ-เชิงหาเรื่อง และเบียดแทรกจนรถเกิดมีการเฉี่ยวชนเกิดขึ้น ก่อนรถคู่กรณีจะเสียหลักขับพุ่งเสยขึ้นเกาะกลางถนนดังในคลิป

          ทั้งนี้เมื่อภาพเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการแชร์ออกไป เสียงวิจารณ์ของบรรดาผู้ที่ได้รับชมคลิปของเหตุการณ์ดังกล่าวก็ตามมา ซึ่งส่วนใหญ่จะตำหนิถึงพฤติกรรมการขับขี่ของรถเก๋งมิตซูฯ สีเหลือง ว่าเป็นพฤติกรรมที่ใจร้อนและไม่เหมาะสมของคนขับ สมควรแล้วที่รถตัวเองเสียหลักเสียเอง

          - จากคลิปแสดงให้เห็นรถผู้เสียหายขับมาบนถนนตามปกติ

          - จู่ ๆ รถคู่กรณีก็ขับมาพยายามขอแทรกเลน แต่รถเจ้าของคลิปไม่ยอมให้แทรก

          - รถคู่กรณีจึงพยายามเบียด-บาดหน้าเข้ามา

          - แล้วมาจอดค้างด้านหน้าอย่างจงใจอยู่นาน

          - เบียดแทรกกันไป-มาสักพัก ก่อนที่รถจะเสียหลักพุ่งเสยเกาะกลางถนน

          อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมา ทีมข่าว "เดลินิวส์ออนไลน์" ได้ประสานงานไปหา ร.ต.ท. วิโรจน์ มูลมานัส พนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เจ้าของคดี ทำให้ทราบว่า เหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิป เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา เวลา 11.00 น. บนนถนนสายเทพารักษ์ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 5 โดยหลังเกิดเหตุเจ้าของรถยนต์ มิตซูบิชิ สีเหลือง ก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความ พร้อมให้ปากคำว่า รถยนต์ของตนได้เกิดเฉี่ยวชนกับรถคู่กรณี (เจ้าของคลิป) จนทำให้กระจกมองข้างด้านขวามีรอย ซึ่งหลังเกิดเหตุตนก็ได้พยายามเรียกให้คู่กรณีหยุดรถ เพื่อมาตกลงเรื่องค่าเสียหาย แต่ปรากฏว่า คู่กรณีได้ขับรถหนี ตนจึงตัดสินใจขับรถไล่ตาม ก่อนที่จะมีการปาดหน้า จนรถของตนเสียหลักพุ่งเสยเกาะกลางถนน

          เจ้าของรถยนต์ มิตซูบิชิ สีเหลือง กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นคู่กรณีก็ยังไม่ยอมลงจากลงรถ และตนขอยอมรับว่าได้พูดจาข่มขู่ตามคลิปจริง

          ด้านเจ้าของรถคู่กรณี ได้เดินทางมายังสถานีตำรวจเช่นเดียวกัน พร้อมระบุว่า เหตุที่ไม่ได้เดินทางมาแจ้งความตั้งแต่วันเกิดเหตุ เพราะกลัวคู่กรณี สำหรับเหตุผลที่ไม่ยอมลงจากรถหลังเกิดเหตุ เนื่องจากคิดว่าอีกฝ่ายมีอาวุธปืน

          ขณะที่ ร.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นจริง ๆ แล้วเป็นเรื่องของรถเฉี่ยวชนกันเท่านั้น เพียงแต่เหตุการณ์ที่ลุกลามก็เป็นเพราะทั้ง 2 ฝ่าย ต่างมีพฤติกรรมด่าทอและท้าทายกันไปมานั้นเอง แต่ภายหลังคู่กรณี และประกันภัยรถยนต์ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถเจรจาตกลงกันได้ สรุปว่าไม่มีใครติดใจเอาความต่างฝ่ายต่างขอโทษกันแล้ว

          ร.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของเจ้าของรถยนต์ มิตซูบิชิ สีเหลือง มีความผิดฐานขับขี่รถประมาทหวาดเสียว ตามมาตรา 43 ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนเรื่องการพูดจาข่มขู่นั้นยังไม่ถือเป็นความผิด เพราะเป็นเพียงการพูดยังไม่มีการกระทำ นอกจากนี้ ก็ยังมีเรื่องของการปล่อยคลิปเหตุการณ์ตามที่ปรากฏในโลกออนไลน์ ซึ่งในเรื่องนี้ ตนได้ว่ากล่าวตักเตือนกับทางเจ้าของคลิปแล้ว เนื่องจากการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550

          ร.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า หากคราวหน้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นอีก ขอให้เดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่โดยตรง ดีกว่าปล่อยคลิปออกไป เพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้ และที่สำคัญจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเลย หากต่างฝ่ายต่างมีน้ำใจให้แก่เพื่อนร่วมทาง หรือถ้าเรารู้จักยอมให้ทางกันได้เรื่องก็จบ





ภาพจาก เฟซบุ๊ก มอเตอร์อินเทรนคลับ fm99, เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก