IS เย้ย !! เผยภาพระเบิดแสวงเครื่องที่ใช้บึ้มเครื่องบินรัสเซีย ตายยกลำ

          กลุ่มไอเอส เผย แพร่ภาพระเบิดแสวงเครื่องที่ก่อเหตุระเบิดเครื่องบินโดยสารรัสเซีย พร้อมสังหารตัวประกันชาวจีนและนอร์เวย์ ขณะที่ ผู้นำรัสเซียบรรลุข้อตกลงกับผู้นำฝรั่งเศส ร่วมปฏิบัติการทางทหารโจมตีเป้าหมายกลุ่มไอเอส

          วันที่ 19 พฤศจิกายน 2558 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ดาบิกแมกกาซีน ออนไลน์ นิตยสารของกลุ่มไอเอส ได้เผยแพร่ภาพสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ใช้ระเบิดเครื่องบินของเมโทรเจ็ต ของรัสเซีย ที่ทำให้ผู้โดยสารพร้อมลูกเรือ 224 ราย เสียชีวิตยกลำ โดยภาพถ่ายบนนิตยสาร ดาบิกแมกกาซีน เป็นภาพของกระป๋องน้ำอัดลมสีเหลือง รวมถึงบางอย่างที่น่าจะเป็นจุดชนวนและสวิตช์ วางอยู่บนผ้าสีน้ำเงิน

          โดยข้อความบนนิตยสารของกลุ่มไอเอส ฉบับนี้ ระบุว่า พวกครูเสดผู้แบ่งแยกแห่งตะวันออกและตะวันตก คิดว่าตนเองปลอดภัยบนเครื่องบินของพวกเขา ในขณะที่พวกเขาดำเนินการอย่างขี้ขลาดทิ้งระเบิดใส่ชาวมุสลิมแห่งกาหลิบ ดังนั้นเราจึงแก้แค้นโดยตรงกับพวกที่รู้สึกว่ามีความปลอดภัยในห้องโดยสาร นอกจากนี้แล้ว ทางกลุ่มยังเผยแพร่ภาพถ่าย ซึ่งพวกเขาอ้างว่าเป็นพาสปอร์ตของเหล่าชาวรัสเซียที่เสียชีวิต ที่พวกนักรบมูจาฮีดีน ได้มา

          ตามรายงานระบุอีกว่า ไอเอส พบช่องโหว่ของการรักษาความปลอดภัยที่สนามบินเมืองชาร์มเอล-ชีค และลักลอบนำขึ้นไปบนเครื่องบิน เดิมทีเล็งเป้าที่สายการบินพันธมิตรสหรัฐฯ แต่เปลี่ยนใจเป็นสายการบินรัสเซีย เพราะรัสเซีย เริ่มลงมือโจมตีทางอากาศในซีเรีย เช่นกัน นอกจากนั้น ไอเอส ยังได้สังหารตัวประกัน 2 คน เป็นชายชาวจีน และนอร์เวย์ ด้วยการยิงทิ้ง หลังจับพวกเขาเป็นตัวประกันได้ในประเทศซีเรีย

          ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า วลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย บรรลุข้อตกลงทางโทรศัพท์กับ ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ ของฝรั่งเศสในการร่วมมือกันปฏิบัติการทางทหารโจมตีเป้าหมายของกลุ่มไอเอส ในซีเรียหลังจากที่กลุ่ม ไอเอส ออกมายอมรับว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีหลายจุดในฝรั่งเศส รวมถึงเหตุเครื่องบินโดยสารของรัสเซียที่ถูกวางระเบิด

          ขณะที่ เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ พร้อมจะส่งกำลังทหารเข้าร่วมโจมตีกลุ่มไอเอสในซีเรียด้วย ด้านรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนี ยืนยันว่า เยอรมนีจะยังไม่เข้าร่วมการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอสในซีเรีย

          แต่ได้ตัดสินใจส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่กองกำลังชาวเคิร์ดเพื่อต่อสู้กับกลุ่มไอเอส ทางตอนเหนือของอิรักแทน


ข้อมูลจากสำนักข่าว INN