
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผย สุชาติ พรมใหม่-ไพโรจน์ โรจนขจร-ธรรมวัฒน์ หิรัณเลขา ผู้ต้องหาคดีอาญา มาตรา 112 เผ่นออกนอกประเทศแล้ว ลุยส่งชุดสืบสวนล่าตัว
วันที่ 2 ธันวาคม 2558 พลตำรวจเอก เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าคดีหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังจากวานนี้ (1 ธันวาคม 2558) ศาลทหารอนุมัติหมายจับ พันตำรวจโท ธนบัตร ประเสริฐวิทย์ รองผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์เพิ่มเติม (อ่านข่าว ศาลทหารออกหมายจับ พ.ต.ท. ธนบัตร ประเสริฐวิทย์ เอี่ยวคดี ม.112) ว่าสำหรับกรณีนี้ สืบเนื่องจากพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวมีหลักฐานว่า พันตำรวจโท ธนบัตร ได้ร่วมกระทำความผิดกับ พันตำรวจตรี ปรากรม วารุณประภา หรือ สารวัตรเอี๊ยด ผู้ต้องหาในคดีนี้ที่เสียชีวิตไปแล้ว ร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์จากการจ้างทำของที่ระลึก ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งให้ พันตำรวจโท ธนบัตร มาช่วยราชการ และคาดว่าอยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้บังคับบัญชา ว่าจะให้พักราชการหรือออกราชการไว้ก่อนหรือไม่
ขณะเดียวกัน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากข้อมูลการสืบสวนทราบว่า นอกจาก นายคชาชาต บุญดี อดีตนายทหารฝ่ายเสนาธิการ กองทัพภาคที่ 3 ที่หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ผู้ต้องหาในคดีนี้ที่เป็นตำรวจทั้ง พันตำรวจเอก ไพโรจน์ โรจนขจร อดีต ผกก.2 ป. และ พันตำรวจโท ธรรมวัฒน์ หิรัณเลขา อดีตรอง ผกก.2ป. รวมถึงทหาร พลตรี สุชาติ พรมใหม่ อดีตนายพลอัตราประจำกองทัพบก (ทบ.) ที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้ คาดว่า ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งทาง พลตำรวจโท ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ส่งชุดสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวและจับกุมผู้ต้องหาแล้ว
ส่วนกระแสข่าวว่า จะมีการออกหมายจับพลตำรวจตรี รายหนึ่ง ที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีติดตั้งเสาสัญญาณวิทยุบนอาคารใบหยก 2 ที่ปรากฏตามรายงานข่าว สอดคล้องกับข้อมูลที่ทราบมาเช่นกันว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานตามขั้นตอนเช่นเดียวกับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้รายอื่น ๆ
นอกจากนี้ ในส่วนกรณีของ พลตำรวจโท รอย อิงคไพโรจน์ ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล และ พลตำรวจตรี อัคราเดช พิมลศรี ผู้บังคับการปราบปราม ก็มีคำสั่งช่วยราชการนั้น ทั้งสองได้มารายงานตัวกับ ศปก.ตร. แล้ว แต่ยังบอกไม่ได้ว่าทั้งสองท่านจะกลับไปดำรงตำแหน่งเดิมหรือไม่
ภาพจาก ครอบครัวข่าว 3
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN