โอลิมปิก 2016 เปิดข้อมูลมหกรรมกีฬาครั้งยิ่งใหญ่ ที่บราซิล เป็นเจ้าภาพ พร้อมประวัติความเป็นมาและประเด็นที่คนอยากรู้มากที่สุด
อีกไม่นานเกินรอแล้ว สำหรับมหกรรมกีฬาที่คนทั่วทั้งโลกรอคอย อย่างการแข่งขันกีฬา โอลิมปิก 2016 ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 31 ณ นครริโอ เดอ จาเนโร โดยมีบราซิลเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะมีพิธีเปิดในวันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ที่สนามกีฬามารากานัง ซึ่งแต่ละประเทศต่างฟิตซ้อมนักกีฬาของตนเองเพื่อลงคว้าชัยเป็นเจ้าเหรียญทองในโอลิมปิกครั้งนี้ ชิงตำแหน่งเจ้าเหรียญทองกับแชมป์เก่าอย่าง สหรัฐอเมริกา ที่ทำสถิติครองเหรียญทองมากที่สุดเกือบทุกครั้ง และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสู่โอลิมปิก 2016 กระปุกดอทคอม ก็ได้เรียบเรียงข้อมูลที่เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้เกี่ยวกับโอลิมปิกมาฝากกัน
1. ประวัติโอลิมปิก
โอลิมปิกยุคโบราณ
ก่อนหน้าคริสตกาลกว่า 1,000 ปี การแข่งขันกีฬาได้ดำเนินการกันบนยอดเขา "โอลิมปัส" ในประเทศกรีซ ซึ่งจำกัดเฉพาะผู้ชายเท่านั้นเนื่องจากผู้เข้าแข่งขันจะต้องเปลือยกาย เข้าแข่งขันกีฬาต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่ง แต่ต่อมามีผู้นิยมขึ้นไปดูกันมากขึ้นจนสนามคับแคบ ทำให้ในปีที่ 776 ก่อนคริสตกาล จึงย้ายที่แข่งขันลงมายังเชิงเขาโอลิมปัส และได้ปรับปรุงการแข่งขันเสียใหม่ ให้ผู้เข้าแข่งขันสวมกางเกง รวมทั้งอนุญาตให้ผู้หญิงดูได้ แต่ห้ามลงแข่งขัน
โดยประเภทกรีฑาที่แข่งขันเป็นทางการในครั้งแรกนี้ มี 5 ประเภท คือ วิ่ง, กระโดด, มวยปล้ำ, พุ่งแหลน และขว้างจักร ผู้ชนะจะได้รับรางวัล เป็นมงกุฎที่ทำด้วยกิ่งไม้มะกอก และได้รับเกียรติเดินทางท่องเที่ยวไปทุกรัฐ ในฐานะตัวแทนของพระเจ้า ซึ่งจะมีการจัดการแข่งขันขึ้นทุก 4 ปี และเมื่อถึงเวลาการแข่งขันทุกรัฐจะต้องให้เกียรติกัน หากช่วงเวลานั้นทำสงครามกันอยู่ก็ต้องพักรบชั่วคราว และเมื่อจบการแข่งขันค่อยกลับไปทำสงครามกันใหม่ ซึ่งต่อมาการแข่งขันโอลิมปิกก็มีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยมาแต่ยังคงกีฬาเริ่มแรกทั้ง 5 ประเภทไว้ เรียกว่า เพ็นตาธรอน หรือ ปัญจกรีฑา เพื่อรำลึกถึงการกำเนิดกรีฑา
การแข่งขันโอลิมปิกได้ดำเนินการแข่งขันติดต่อกันมาถึง 1,200 ปี จนมาในปี พ.ศ. 936 จักรพรรดิธีโอดอซิดุชแห่งโรมันได้ทรงประกาศให้ยกเลิกการแข่งขันโอลิมปิก เพราะเกิดการว่าจ้างนักกีฬาเข้ามาเล่นเพื่อหวังรางวัล รวมทั้งมีการพนันเข้ามาร่วมด้วย
โอลิมปิกสมัยใหม่
หลังจากมีการล้มเลิกแข่งกีฬาโอลิมปิกนานถึง 15 ศตวรรษ ก็ได้มีผู้ฟื้นฟูกีฬาโอลิมปิกขึ้นมาอีกครั้ง โดยนักกีฬาของฝรั่งเศส บารอน ปีแยร์ เดอ กูแบร์แต็ง ได้เปิดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการเพื่อประกาศฟื้นฟูการแข่งขันโอลิมปิกขึ้นที่ ซอร์บอนน์ ในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2435 โดยคณะกรรมการผู้ริเริ่ม 15 ประเทศ ได้กำหนดการแข่งขันให้จัด 4 ปีต่อ 1 ครั้ง และให้ประเทศสมาชิกหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ และจัดการแข่งขันครั้งแรกที่กรุงเอเธนส์ พ.ศ. 2439 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการกำเนิดกีฬาโอลิมปิกครั้งโบราณ
2. โอลิมปิก 2016 เจ้าภาพ
สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2016 นครริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขัน จากการตัดสินและประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2552 โดยจะมีการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 5-21 สิงหาคม พ.ศ. 2558 และใช้สนามกีฬาในเมือง ริโอ เดอ จาเนโร เป็นสถานที่จัดการแข่งขันถึง 4 โซน ดังนี้
1. Copacabana เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาประเภททางน้ำ มี 4 แห่ง คือ
- Beach Volleyball Arena สำหรับแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด
- Fort Copacabana สำหรับแข่งขันกีฬาว่ายน้ำมาราธอน จักรยานถนน และไตรกีฬา
- Lagoa Stadium สำหรับแข่งขันกีฬาเรือพาย และแคนู
- Marina da Glória สำหรับการแข่งขันเรือใบ
2. Maracanã เป็นสถานที่ในการแข่งขันกีฬาสำคัญรวมทั้งพิธีเปิดและปิด มี 3 ส่วน ดังนี้
- Olympic Stadium สำหรับแข่งขันกรีฑา และฟุตบอล
- Sambódromo ใช้สำหรับเป็นสถานที่แข่งขันยิงธนูและมาราธอน
- Maracanã ใช้จัดการแข่งขันโปโลน้ำ การแข่งขันวอลเลย์บอล และแข่งฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศ ทั้งชายและหญิง
3. Deodoro ตั้งอยู่บริเวณชานเมืองทางตอนเหนือของริโอ เดอ จาเนโร ใช้สำหรับแข่งขันกีฬาหลายประเภท
- Deodoro Aquatics Centre สำหรับการแข่งขันปัญจกีฬาสมัยใหม่ โดยเฉพาะว่ายน้ำ
- Deodoro Stadium สำหรับการแข่งขันปัญจกีฬาสมัยใหม่ และรักบี้
- Olympic Equestrian Centre สำหรับจัดการแข่งขันขี่ม้า
- Olympic Hockey Centre สำหรับแข่งขันฮอกกี้
- Olympic Shooting Centre สำหรับแข่งขันยิงปืน
- Youth Arena สำหรับแข่งขันบาสเกตบอลและปัญจกีฬาสมัยใหม่
- X-Park เป็นโซนสำหรับกีฬาประเภทผาดโผน คือ แข่งขันจักรยานเสือภูเขา, แข่งขันจักรยาน BMX และ แข่งขันแคนูโต้คลื่น
4. Barra ตั้งอยู่บริเวณชานเมืองทางตอนใต้ของเมือง ถือเป็นศูนย์กลางการแข่งขันก็ว่าได้
- Olympic Golf Course สำหรับการแข่งขันกอล์ฟ
- Pontal เป็นชายหาดทางตอนใต้ของ Barra สำหรับจัดการแข่งขันจักรยานถนน
- Barra Olympic Park เป็นศูนย์กลางทางกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในริโอ เดอ จาเนโร สำหรับจัดแข่งขันกีฬาหลายประเภท ทั้ง บาสเกตบอล มวยปล้ำ ยูโด ฟันดาบ เทควันโด กระโดดน้ำ ระบำใต้น้ำ ยิมนาสติก จักรยานเวโลโดรม ว่ายน้ำ และโปโลน้ำรอบชิงชนะเลิศ
3. โลโก้ โอลิมปิก 2016
สัญลักษณ์ของการแข่งขันโอลิมปิก 2016 มี 3 สี คือ สีเหลือง สีน้ำเงิน และสีเขียว ตามสีธงชาติบราซิล เหมือนคนสามคนจับมือกันเต้นรำเป็นวงกลม หากมองอีกมุมหนึ่งจะมีลักษณะของเทือกเขาซูการ์โลฟ แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในเมืองริโอ และอีกความหมายหนึ่ง เปรียบเหมือนเป็นข้อความจำลองคำว่า R I O ตามแนวความคิด 4 เรื่องได้แก่ พลังที่ส่งถึงกัน ความหลากหลายที่กลมกลืน ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และจิตวิญญาณโอลิมปิก ซึ่งออกแบบโดย Tatíl Design และได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553
4. มาสคอต โอลิมปิก 2016
เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับมาสคอต โอลิมปิก 2016 หรือ ตุ๊กตานำโชคของริโอเกมส์ 2016 (Rio 2016) ที่ปีนี้ถูกออกแบบให้มี 2 ตัว คือสีเหลืองลักษณะคล้ายแมวประจำถิ่น เพศผู้ชื่อ "วินิเชียส" เป็นมาสคอตโอลิมปิก มีที่มาจากสัตว์หลาย ๆ ชนิดของบราซิลรวมกัน ลักษณะนิสัยชอบกระโดด เต้นและยิ้ม เหมือนเด็ก ๆ
อีกตัวหนึ่งมีตัวสีเขียว-ฟ้า รูปร่างคล้ายพืชพื้นเมือง เพศผู้ ชื่อ "ทอม" เป็นมาสคอตพาราลิมปิก มีที่มาจากพืชหลากชนิดในบราซิล
5. เพลงโอลิมปิก 2016
สำหรับเพลงที่ใช้ในการแข่งขันโอลิมปิก 2016 ริโอ เกมส์ คือ เพลง Reach For The Top
6. ชนิดกีฬาในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2016
กีฬาที่จะจัดแข่งขันในโอลิมปิก 2016 มี 28 ชนิดกีฬา รวมทั้งหมด 42 ประเภท จำนวน 306 เหรียญทอง ได้แก่
1. กีฬาทางน้ำ
- กระโดดน้ำ จำนวน 8 เหรียญทอง
- โปโลน้ำ จำนวน 2 เหรียญทอง
- ระบำใต้น้ำ จำนวน 2 เหรียญทอง
- ว่ายน้ำ จำนวน 34 เหรียญทอง
- ว่ายน้ำมาราธอน
2. กรีฑา จำนวน 47 เหรียญทอง
4. ขี่ม้า
- ศิลปะการบังคับม้า จำนวน 2 เหรียญทอง
- อีเวนติ้ง จำนวน 2 เหรียญทอง
- กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง จำนวน 2 เหรียญทอง
5. เรือแคนู
- สปรินต์ จำนวน 12 เหรียญทอง
- สลาลม จำนวน 4 เหรียญทอง
6. จักรยาน
- บีเอ็มเอ็กซ์ จำนวน 2 เหรียญทอง
- เสือภูเขา จำนวน 2 เหรียญทอง แบ่งเป็น
- ประเภทถนน จำนวน 4 เหรียญทอง
- ประเภทลู่ จำนวน 10 เหรียญทอง
7. ไตรกีฬา จำนวน 2 เหรียญทอง
8. เทเบิลเทนนิส จำนวน 4 เหรียญทอง
9. เทควันโด จำนวน 8 เหรียญทอง
10. เทนนิส จำนวน 5 เหรียญทอง
11. บาสเกตบอล จำนวน 2 เหรียญทอง
12. แบดมินตัน จำนวน 5 เหรียญทอง
13. ปัญจกีฬาสมัยใหม่ จำนวน 2 เหรียญทอง
14. ฟันดาบ จำนวน 10 เหรียญทอง
15. ฟุตบอล จำนวน 2 เหรียญทอง
16. มวยปล้ำ
- ฟรีสไตล์ จำนวน 12 เหรียญทอง
- กรีกโรมัน จำนวน 6 เหรียญทอง
17. มวยสากลสมัครเล่น จำนวน 13 เหรียญทอง
18. ยกน้ำหนัก จำนวน 15 เหรียญทอง
19. ยูโด จำนวน 14 เหรียญทอง
20. ยิงธนู จำนวน 4 เหรียญทอง
21. ยิงปืน จำนวน 15 เหรียญทอง
22. ยิมนาสติก
- อาร์ทิสติก ยิมนาสติก หรือ ยิมนาสติกสากล จำนวน 14 เหรียญทอง
- ริธมิค ยิมนาสติก หรือ ยิมนาสติกลีลา จำนวน 2 เหรียญทอง
- แทรมโพลีน จำนวน 2 เหรียญทอง
23. รักบี้ 7 คน จำนวน 2 เหรียญทอง
24. เรือใบ จำนวน 10 เหรียญทอง
25. เรือพาย จำนวน 14 เหรียญทอง
26. วอลเลย์บอล
- ในร่ม จำนวน 2 เหรียญทอง
- ชายหาด จำนวน 2 เหรียญทอง
27. แฮนด์บอล จำนวน 2 เหรียญทอง
28. ฮอกกี้ จำนวน 2 เหรียญทอง
7. ตั๋วโอลิมปิก 2016
บัตรเข้าชมการแข่งขันโอลิมปิก 2016 นั้น มีจำหน่ายจำนวน 7.5 ล้านใบ และจะเริ่มจำหน่ายจริงผ่านช่องทางออนไลน์เดือนตุลาคม พ.ศ. 2558 ก่อนเปิดจำหน่ายที่บ็อกซ์ออฟฟิศเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 ซึ่งราคาบัตรแต่ละชนิดกีฬาจะมีราคาต่างกัน โดยราคาต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 490 บาท ส่วนบัตรสำหรับนักเรียนและผู้สูงอายุมีราคาอยู่ที่ประมาณ 260 บาท และในไฮไลท์การแข่งขันโอลิมปิก อย่าง วิ่ง 100 เมตร รอบชิงชนะเลิศ มีราคาสูงอยู่ที่ประมาณ 1,250 บาท
สำหรับบริษัทตัวแทนจำหน่ายตั๋วชมกีฬาโอลิมปิก 2016 ในประเทศไทยนั้น ก็คือ บริษัท เคเอ็นที แทรเวล (ประเทศไทย) โดยสามารถดูรายละเอียดการจำหน่ายตั๋วได้ที่ www.knt-thailand.com
8. วอลเลย์บอลหญิงไทย มีลุ้นแข่งโอลิมปิก 2016
เรียกว่ามีลุ้น สำหรับทีมนักตบสาวไทยที่มีโอกาสผ่านเข้าไปโลดแล่นในวอลเลย์บอลหญิงในโอลิมปิก 2016 หลังจากที่ผ่านเข้ารอบคัดเลือกรอบสุดท้ายที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 14 พฤษภาคม - 5 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เพื่อเฟ้นหาทีมที่ดีที่สุดในเอเชีย 1 ทีมไปแข่งในโอลิมปิก 2016 ที่ บราซิล
สำหรับวอลเลย์บอลหญิงในโอลิมปิก 2016 มีทั้งหมด 12 ทีม โดยจะจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 6-20 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ที่ ชีนาซีอูดูมารากานังซินโฮ
9. นักเตะเทควันโดไทย ใน โอลิมปิก 2016
นักเทควันโดไทยที่มีโอกาสไปลุ้นโอลิมปิก 2016 ที่ประเทศบราซิล มี 2 คน ได้แก่ เล็ก ชนาธิป ซ้อนขำ อดีตเหรียญทองแดง โอลิมปิกเกมส์ 2012 และ เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ดีกรีแชมป์โลกคนล่าสุด ซึ่งขณะนี้กำลังเก็บสะสมแต้มเพื่อไปแข่งขันในโอลิมปิกที่จะถึงนี้
10. มีลุ้น ! ฟุตบอลไทย สู่ โอลิมปิก 2016
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี จะมีการเฟ้นหาทีมชนะเลิศ 3 ลำดับแรกของรายการที่จะได้รับสิทธิ์ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ณ ประเทศบราซิล ซึ่งทีมไทยได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปตัดเชือกในช่วงวันที่ 12-30 มกราคม พ.ศ. 2559 ที่ประเทศกาตาร์
11. ย้อนดูโอลิมปิก 2012 ครั้งที่ 30 ลอนดอนเกมส์
ในการแข่งขันโอลิมปิก 2012 ได้จัดขึ้นที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยหลังการแข่งขันทีมชาติสหรัฐฯ สามารถคว้าแชมป์เจ้าเหรียญทองโอลิมปิก 2012 กวาดมาได้ 46 เหรียญทอง ตามมาด้วยแชมป์เก่า ประเทศจีน อยู่ที่ 38 เหรียญทอง
ขณะที่ประเทศไทยคว้ามาได้ 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง รวมทั้งสิ้น 3 เหรียญ ดังนี้
มวยสากลสมัครเล่น 1 เหรียญเงิน จาก แก้ว พงษ์ประยูร
ยกน้ำหนัก 1 เหรียญเงิน จาก น้องแต้ว พิมศิริ ศิริแก้ว
เทควันโด 1 เหรียญทองแดง จาก น้องเล็ก ชนาธิป ซ้อนขำ
12. จำนวนเหรียญโอลิมปิกที่นักกีฬาไทยคว้ามาได้ทั้งหมด
สำหรับนักกีฬาโอลิมปิกไทยได้เหรียญรางวัลทั้งหมด 24 เหรียญ แบ่งเป็น 7 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน และ 11 เหรียญทองแดง ตั้งแต่ไทยเข้าร่วมกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกในปี 1952
13. สรุปเหรียญโอลิมปิก รวมสถิติแต่ละครั้งที่ผ่านมาใครครองเจ้าเหรียญทองบ้าง ?
ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกแต่ละครั้งหลาย ๆ ประเทศที่ลงแข่งขันต่างชิงกันเป็นเจ้าเหรียญทอง โดยแต่ละครั้งที่ผ่านมามีสถิติ ดังนี้
โอลิมปิก 2012 เจ้าเหรียญทอง คือ สหรัฐอเมริกา คว้าไป 46 เหรียญทอง 29 เหรียญเงิน และ 29 เหรียญทองแดง รวม 104 เหรียญ
โอลิมปิก 2008 เจ้าเหรียญทอง คือ ประเทศจีน คว้าไป 51 เหรียญทอง 21 เหรียญเงิน และ 28 เหรียญทองแดง รวม 100 เหรียญ
โอลิมปิก 2004 เจ้าเหรียญทอง คือ สหรัฐอเมริกา คว้าไป 36 เหรียญทอง 39 เหรียญเงิน และ 27 เหรียญทองแดง รวม 102 เหรียญ
โอลิมปิก 2000 เจ้าเหรียญทอง คือ สหรัฐอเมริกา คว้าไป 49 เหรียญทอง 24 เหรียญเงิน และ 33 เหรียญทองแดง รวม 97 เหรียญ
โอลิมปิก 1996 เจ้าเหรียญทอง คือ สหรัฐอเมริกา คว้าไป 44 เหรียญทอง 32 เหรียญเงิน และ 25 เหรียญทองแดง รวม 101 เหรียญ
โอลิมปิก 1992 เจ้าเหรียญทอง คือ ทีมรวมเฉพาะกิจเครือรัฐเอกราช คว้าไป 45 เหรียญทอง 38 เหรียญเงิน และ 29 เหรียญทองแดง รวม 112 เหรียญ
โอลิมปิก 1988 เจ้าเหรียญทอง คือ สหภาพโซเวียต คว้าไป 55 เหรียญทอง 31 เหรียญเงิน และ 46 เหรียญทองแดง รวม 132 เหรียญ
โอลิมปิก 1984 เจ้าเหรียญทอง คือ สหรัฐอเมริกา คว้าไป 83 เหรียญทอง 61 เหรียญเงิน และ 30 เหรียญทองแดง รวม 174 เหรียญ
โอลิมปิก 1980 เจ้าเหรียญทอง คือ สหภาพโซเวียต คว้าไป 80 เหรียญทอง 69 เหรียญเงิน และ 46 เหรียญทองแดง รวม 195 เหรียญ
โอลิมปิก 1976 เจ้าเหรียญทอง คือ สหภาพโซเวียต คว้าไป 49 เหรียญทอง 41 เหรียญเงิน และ 35 เหรียญทองแดง รวม 125 เหรียญ
โอลิมปิก 1972 เจ้าเหรียญทอง คือ สหภาพโซเวียต คว้าไป 50 เหรียญทอง 27 เหรียญเงิน และ 22 เหรียญทองแดง รวม 99 เหรียญ
โอลิมปิก 1968 เจ้าเหรียญทอง คือ สหรัฐอเมริกา คว้าไป 45 เหรียญทอง 28 เหรียญเงิน และ 34 เหรียญทองแดง รวม 107 เหรียญ
โอลิมปิก 1964 เจ้าเหรียญทอง คือ สหรัฐอเมริกา คว้าไป 36 เหรียญทอง 26 เหรียญเงิน และ 28 เหรียญทองแดง รวม 90 เหรียญ
โอลิมปิก 1960 เจ้าเหรียญทอง คือ สหภาพโซเวียต คว้าไป 43 เหรียญทอง 29 เหรียญเงิน และ 31 เหรียญทองแดง รวม 103 เหรียญ
โอลิมปิก 1956 เจ้าเหรียญทอง คือ สหภาพโซเวียต คว้าไป 37 เหรียญทอง 29 เหรียญเงิน และ 32 เหรียญทองแดง รวม 98 เหรียญ
โอลิมปิก 1952 เจ้าเหรียญทอง คือ สหรัฐอเมริกา คว้าไป 40 เหรียญทอง 19 เหรียญเงิน และ 17 เหรียญทองแดง รวม 76 เหรียญ
โอลิมปิก 1948 เจ้าเหรียญทอง คือ สหรัฐอเมริกา คว้าไป 38 เหรียญทอง 27 เหรียญเงิน และ 19 เหรียญทองแดง รวม 84 เหรียญ
โอลิมปิก 1936 เจ้าเหรียญทอง คือ เยอรมนี คว้าไป 33 เหรียญทอง 26 เหรียญเงิน และ 30 เหรียญทองแดง รวม 89 เหรียญ
โอลิมปิก 1932 เจ้าเหรียญทอง คือ สหรัฐอเมริกา คว้าไป 41 เหรียญทอง 32 เหรียญเงิน และ 30 เหรียญทองแดง รวม 103 เหรียญ
โอลิมปิก 1928 เจ้าเหรียญทอง คือ สหรัฐอเมริกา คว้าไป 22 เหรียญทอง 18 เหรียญเงิน และ 16 เหรียญทองแดง รวม 56 เหรียญ
โอลิมปิก 1924 เจ้าเหรียญทอง คือ สหรัฐอเมริกา คว้าไป 45 เหรียญทอง 27 เหรียญเงิน และ 27 เหรียญทองแดง รวม 99 เหรียญ
โอลิมปิก 1920 เจ้าเหรียญทอง คือ สหรัฐอเมริกา คว้าไป 41 เหรียญทอง 27 เหรียญเงิน และ 27 เหรียญทองแดง รวม 95 เหรียญ
โอลิมปิก 1912 เจ้าเหรียญทอง คือ สหรัฐอเมริกา คว้าไป 25 เหรียญทอง 19 เหรียญเงิน และ 19 เหรียญทองแดง รวม 63 เหรียญ
โอลิมปิก 1908 เจ้าเหรียญทอง คือ สหราชอาณาจักร คว้าไป 56 เหรียญทอง 51 เหรียญเงิน และ 39 เหรียญทองแดง รวม 146 เหรียญ
โอลิมปิก 1904 เจ้าเหรียญทอง คือ สหรัฐอเมริกา คว้าไป 78 เหรียญทอง 82 เหรียญเงิน และ 79 เหรียญทองแดง รวม 239 เหรียญ
โอลิมปิก 1900 เจ้าเหรียญทอง คือ ฝรั่งเศส คว้าไป 26 เหรียญทอง 41 เหรียญเงิน และ 34 เหรียญทองแดง รวม 101 เหรียญ
โอลิมปิก 1986 เจ้าเหรียญทอง คือ สหรัฐอเมริกา คว้าไป 11 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง รวม 20 เหรียญ
14. กีฬาโอลิมปิก 2020
ประเทศที่จะจัดกีฬาโอลิมปิก 2020 ครั้งที่ 32 ต่อจากโอลิมปิก 2016 นั่นก็คือ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน นอกจากนี้กรุงโตเกียวยังเคยเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกมาแล้วในปี 1964
15. โอกาสที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก
แม้ว่าความหวังที่ไทยจะได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกนั้นเรียกว่าน้อยจนไม่ค่อยมีลุ้น แต่แนวคิดเป็นเจ้าภาพร่วมอาจไม่ใช่ความฝันที่ไกลเกินเอื้อม เนื่องจากไม่นานมานี้ได้มีแนวคิดว่าหากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ได้แก่ ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ รวมตัวกันก็น่าจะมีศักยภาพพอที่จะเสนอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rio 2016, Instagram rio2016
ขอบคุณข้อมูลจาก
educatepark.com, rio2016.com,
