Thailand Web Stat

ครม. หวั่นช่วงเปลี่ยนผ่าน ขอประชาธิปไตยครึ่งใบ ป้องกันรัฐล้มเหลว





          กรธ. ปัดเลือกพิจาณาข้อเสนอ เผยคณะรัฐมนตรีชงปรับแก้ 16 ข้อ ขอประชาธิปไตยครึ่งใบ หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ หวั่นเกิดโกลาหลเหมือนก่อนรัฐประหาร จนเข้าสู่ภาวะรัฐล้มเหลว ค้านแยกศาลรัฐธรรมนูญเป็นหมวดใหม่ กลัวถูกครหาเพิ่มอำนาจ

          วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 ที่รัฐสภา นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แถลงความคืบหน้าการทำงานของ กรธ. ว่าขณะนี้ กรธ. นำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่แต่ละฝ่ายเสนอมาประกอบการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนและปรับแก้ไขบทบัญญัติในหมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย

          ส่วนที่มีข่าวว่า กรธ. ให้ความสำคัญเฉพาะความเห็นและข้อเสนอของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นั้น ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง กรธ. ให้ความสำคัญกับทุกความเห็น โดยการพิจารณาที่ผ่านมา กรธ. นำความเห็นของประชาชน องค์กรชุมชน และกลุ่มต่าง ๆ มาพิจารณา ส่วนของ ครม. และ สนช. ยังไม่ได้ถูกนำมาพิจารณาเลย

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรธ. ได้แจกเอกสารข้อเสนอและความเห็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของ ครม. ตามที่หนังสือ นร. 0404/1625  ลงนามโดย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี จำนวน 7 หน้า มี 16 ข้อ อาทิ

          มาตรา 190 เสนอให้คดีทุจริตของนักการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงต้องพิจารณาในศาลอาญาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น ควรแก้ให้การอุทธรณ์เป็นสิทธิในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพื่อเป็นระบบ 2 ศาล 

          นอกจากนี้ ครม. ไม่เห็นด้วยกับการแยกศาลรัฐธรรมนูญออกมาไว้ในหมวด 11 เพราะอาจสร้างความเข้าใจว่า เพิ่มอำนาจให้ศาลรัฐธรรมนูญ และควรแก้ไขอายุของตุลาการศาลฯ ให้เป็นไม่เกิน 70 ปี รวมถึง ครม. เห็นด้วยกับการปฏิรูปให้แยกออกมาเป็นการเฉพาะ อีกทั้งควรกำหนดบทเฉพาะกาลกำหนดการเลือกตั้งให้สอดคล้องกับโรดแม็ปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คือภายในเดือนกรกฎาคม 2560 เป็นต้นไป และ กรธ. จัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่น รวม 10 ฉบับ จะทำให้การเลือกตั้งช้าออกไป โดยเสนอให้ กรธ. ทำเฉพาะกฎหมายที่จำเป็นต่อการเลือกตั้งและการจัดการให้มี ส.ว. จนแล้วเสร็จ

 
          ส่วนข้อเสนอสุดท้ายของ ครม. มองว่า ขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญจำนวนมาก เป็นความไม่วางใจและไม่แน่ใจในระบบและตัวบุคคลที่จะเข้าสู่ระบบ อาจทำให้บ้านเมืองเกิดความไม่สงบเรียบร้อย เข้าสู่ภาวะรัฐที่ล้มเหลวดังเช่นก่อนเดือน พฤษภาคม 2557 ภายหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ อาทิ ปัญหาการเลือกตั้ง การจัดตั้งรัฐบาล ปัญหาความมั่นคง เศรษฐกิจ ความเป็นอยู่และคุณธรรมของคนในชาติ ประเทศตกอยู่ในวังวนแห่งการสู้รบและปัญหาอื่น ๆ ซึ่งส่งผลให้การบริหารราชการแผ่นดิน, การสร้างความสามัคคี, การสร้างความปรองดอง และการปฏิรูปประเทศสะดุดล้มเหลว จึงถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ และความเป็นความตายของประเทศ

          ทั้งนี้ ครม. จึงเห็นว่าถ้าบัญญัติเนื้อหาและการบังคับใช้รัฐธรรมนูญเป็น 2 ช่วง คือช่วงเฉพาะกิจหรือเฉพาะกาลในระยะแรก ซึ่งอาจไม่ยาวนาน โดยใช้หลักเกณฑ์อย่างหนึ่งเหมือนข้อยกเว้นตามความจำเป็นแห่งสถานการณ์เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง แต่อยู่บนพื้นฐานการปกครองของระบอบประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้ง ส.ส. ในระดับหนึ่ง อย่างมีดุลยภาพในช่วงเปลี่ยนผ่าน และช่วงที่จะใช้รัฐธรรมนูญในระยะต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับหลักสากลและเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยที่ลดข้อจำกัดต่าง ๆ ลงให้มากดังนี้ น่าจะแก้ปัญหาและอธิบายให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนและนานาชาติได้


ภาพจาก เฟซบุ๊ก คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 2558

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ครม. หวั่นช่วงเปลี่ยนผ่าน ขอประชาธิปไตยครึ่งใบ ป้องกันรัฐล้มเหลว อัปเดตล่าสุด 19 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 11:46:17 2,952 อ่าน
TOP
x close