พ่อน้องคอปเตอร์ เล่าเหตุการณ์สุดเศร้า ยังทำใจไม่ได้-ลูกจากไปเร็ว

       เปิ้ล นาคร ร่วมพิธีรดน้ำศพ น้องคอปเตอร์ แชมป์โลกเจ็ตสกีวัย 14 ปี บอกเสียดายวงการเจ็ตสกีไทยต้องสูญเสียเด็กเก่ง ด้านพ่อ-แม่น้องคอปเตอร์ ยังทำใจไม่ได้ รับเสียใจที่ลูกมาจากไปเร็ว แม้แต่โอกาสคุยกันครั้งสุดท้ายยังไม่มี

       จากกรณี ด.ช.ฉันทัช ฉันทะสันติธรรม อายุ 14 ปี หรือ น้องคอปเตอร์ นักเจ็ตสกีไทย เจ้าของแชมป์เจ็ตสกี ประเภทยืน รุ่น Novice Ski Stock รายการ Jet Ski World Final 2015 สังกัดทีม 59 เรซซิ่ง ประสบอุบัติเหตุพลัดตกเจ็ตสกีขณะซ้อม ก่อนถูกเจ็ตสกีอีกคันที่ขี่ตามหลังมาชน ภายในบึงจังหวัดสมุทรปราการ จนบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2559 ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : ช็อก ! น้องคอปเตอร์ แชมป์โลกเจ็ตสกีวัย 14 ปี ประสบอุบัติเหตุขณะซ้อม เสียชีวิต]

       ล่าสุด วันที่ 7 มิถุนายน 2559 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานความคืบหน้าวานนี้ (6 มิถุนายน) ว่า ครอบครัวของน้องคอปเตอร์ นำโดย นายสัจจา ฉันทะสันติธรรม คุณพ่อของน้องคอปเตอร์ ได้เดินทางมารับศพของน้องคอปเตอร์ ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดเขียนเขต ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

       โดยเมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ณ วัดเขียนเขต จ.ปทุมธานี ได้มีการรดน้ำศพน้องคอปเตอร์ ภายในงานมีครอบครัว ญาติ ๆ และบรรดาเพื่อนสนิท และเหล่านักกีฬาเจ็ตสกี นำโดย เปิ้ล นาคร ศิลาชัย ที่เดินทางมาร่วมพิธีรดน้ำศพ พร้อมนำพวงหรีดมาแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วย ซึ่งบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

       ด้านคุณประภาวดี ฉันทะสันติธรรม คุณแม่ของน้องคอปเตอร์ ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียลูกชายอย่างกะทันทัน โดยคุณสัจจา คุณพ่อของน้องคอปเตอร์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้พาน้องคอปเตอร์ไปฝึกซ้อมเจ็ตสกีตามปกติ แต่ในจังหวะที่น้องคอปเตอร์เร่งเจ็ตสกีแซงน้องอายุ 9 ขวบ คนหนึ่ง แต่ปรากฏว่า ช่วงที่แซงนั้น เป็นช่วงโค้งตัว S ทำให้พลัดตกลงจากเจ็ตสกี และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เจ็ตสกีคันหลังวิ่งมาพอดี ทำให้เฉี่ยวชนเข้าที่ใบหน้าข้างซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์


       คุณสัจจา กล่าวต่อว่า จริง ๆ แล้วกีฬาเจ็ตสกีไม่ใช่กีฬาอันตราย แต่ก็มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับน้องคอปเตอร์นั้น เป็นเพราะโดนชนเข้าตรง ๆ จึงทำให้เสียชีวิต ซึ่งตนรู้ดีว่าทุกคนก็ไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุแบบนี้อย่างแน่นอน และคนที่ตนเป็นห่วงมากที่สุดตอนนี้ก็คือภรรยา เพราะยังทำใจไม่ได้

       ที่สำคัญครอบครัวเรามีกัน 3 คน หากเกิดอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ เรายังมีโอกาสได้อยู่ด้วยกัน ได้พูดคุยกัน แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเราไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้คุยกันเลย

       ด้านนายวุฒิพงษ์ แสงอุทัย เจ้าของบึงเจ้าสมุทร และยังเป็นคุณพ่อของน้องบอล นายทัศพงษ์ แสงอุทัย อายุ 15 ปี นักกีฬาเจ็ตสกี เล่าว่า ในวันที่เกิดเหตุน้องคอปเตอร์ใส่อุปกรณ์ป้องกันครบทุกชิ้น แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องสุดวิสัยเป็นอย่างมาก และโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุเช่นนี้ระหว่างการซ้อมมีน้อยมาก ๆ แต่อย่างไรก็ดี หลังจากนี้ตนจะไปหามาตรการเพิ่มความปลอดภัยของนักกีฬาเจ็ตสกีระหว่างการซ้อม โดยหากเป็นนักกีฬาเจ็ตสกีรุ่นเล็ก อาจจะให้มีพี่เลี้ยงตามประกบ ขณะที่นักกีฬาเจ็ตสกีมืออาชีพที่ใช้ความเร็วสูงจะอนุญาตให้ลงซ้อมได้ เมื่อเด็ก ๆ ขึ้นมาหมดแล้ว


       นายวุฒิพงษ์ ยังเล่าต่อว่า ตนรู้จักกับน้องคอปเตอร์มาตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่น้องคอปเตอร์เริ่มเล่นเจ็ตสกีใหม่ ๆ และตอนที่น้องคอปเตอร์มาฝึกที่บึงเจ้าสมุทรก็ได้รู้จักกับน้องบอล ลูกชายของตน และทุกครั้งที่มีการแข่งขันเจ็ตสกีทั้งน้องคอปเตอร์และน้องบอล ก็จะไปแข่งด้วยกันตลอด ทำให้ตนรักน้องคอปเตอร์เหมือนเป็นลูกชายอีกคน จึงทำให้ทุกวันนี้ยังทำใจไม่ได้ที่น้องคอปเตอร์เสียชีวิตทั้ง ๆ ที่อายุยังน้อย

       ขณะที่ เปิ้ล นาคร ศิลาชัย เปิดเผยว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะส่วนตัวรู้จักกับน้องคอปเตอร์เป็นอย่างดี และรู้สึกเสียดายมาก เพราะน้องคอปเตอร์เป็นเด็กที่เก่งและฉลาด อีกทั้งอายุเพียง 14 ปี แต่กลับสามารถคว้าแชมป์โลกมาได้ ถือว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้วงการเจ็ตสกีต้องสูญเสียบุคคลสำคัญไป






ภาพจาก เฟซบุ๊ก Opp Thanthida, รายการเรื่องเล่าเช้านี้, Instagram copter_t99

ข้อมูลจาก