นักเรียนโหด รัว 20 หมัดไม่ยั้งใส่รอง ผอ. จนเลือดคั่งในสมอง แต่เรื่องเงียบ

          หลานสาว รอง ผอ. โรงเรียนดังเมืองสุรินทร์ สุดทน ตาโดนนักเรียนรัว 20 หมัด ต่อหน้าครู-นักเรียนนับร้อย จนเลือดคั่งในสมอง แต่ถูกปิดข่าว-เรื่องเงียบ

          วันที่ 14 กรกฎาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์มีการเผยแพร่ภาพพร้อมข้อความจากเฟซบุ๊กหนึ่งที่มีการระบุข้อความว่า ชายที่ปรากฎในรูปคือตาของตน ต้องได้รับการผ่าตัด เนื่องจากอาการเลือดคั่งในสมอง เพราะถูกเด็กนักเรียนชั้น ม.1 อายุ 14 ปี โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ทำร้ายร่างกายด้วยการชกต่อยอย่างรุนแรง ทั้ง ๆ ที่ตาของตนเป็นถึงรองผู้อำนวยการของโรงเรียนดังกล่าว ซึ่งแม้ตาของตนถูกทำร้ายต่อหน้าครูและนักเรียนนับร้อย แต่เรื่องกลับเงียบ และถูกสั่งปิดข่าวเพื่อไม่ให้เสียชื่อโรงเรียน ในขณะที่เด็กคนที่ทำร้ายก็ยังไม่ได้รับโทษใด ๆ
          กระทั่งผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ได้ติดต่อไปยัง น.ส.ปีใหม่ (นามสมุตติ) อายุ 26 ปี หลานสาวอีกคนของรองผู้อวยการรายดังกล่าว ได้รับการเปิดเผยว่า รองผู้อำนวยการคนดังกล่าวเป็นน้าของตน อายุ 59 ปี เป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายปกครอง โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยน้าของตนได้ลงโทษนักเรียนกลุ่มดังกล่าวด้วยการให้ไปเก็บขยะ เนื่องจากมีนักเรียน 1 คนในกลุ่มมักจะชอบชกต่อยกับเพื่อนนักเรียนร่วมชั้น จากนั้นเด็กที่เป็นหัวหน้ากลุ่มก็ได้ออกมารับผิดชอบ แต่ต่อมาเด็กกลับไม่เก็บขยะตามที่ตลกลงกันไว้ น้าของตนจึงใช้ไม้เรียวเฆี่ยนไปที่ขาเด็ก 1 ครั้ง


          น.ส.ปีใหม่ เล่าอีกว่า กระทั่งวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันไหว้ครู ก็ได้มีการเรียกพบผู้ปกครองเด็ก ผู้อำนวยการก็ได้ให้มาไกล่เกลี่ยไม่ให้เอาเรื่องเด็ก แต่หลาน ๆ ไม่เห็นด้วย ซึ่งครูท่านอื่นก็เห็นตรงกันว่าเด็กทำผิดจริง ต่อมาเด็กที่เป็นหัวหน้ากลุ่มเกิดไม่พอใจ ปรี่เข้าชกใบหน้าน้าของตนประมาณ 20 ครั้งจนล้มลงเลือกไหลออกจมูก หน้าบวมจนต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะทนไม่ไหว และมีเลือดออกในกระพุ้งแก้ม


          น.ส.ปีใหม่ ระบุว่า ขอบคุณทุกคนที่ช่วยแชร์ ตนไม่ได้อยากให้เรื่องใหญ่โต หรือให้ร้ายพาดพิงใคร แต่เด็กกลับตอบว่า "ขนาดรอง ผอ. ยังต่อยมาแล้ว" ตนจึงคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ที่จะปล่อยผ่านได้ อย่างน้อยทุกอย่างก็น่าจะทำเพื่อตัวเด็กเอง เด็กคนดังกล่าวควรได้การแก้ไขในด้านอารมณ์และจิตใจ หากเขาเติบโตมาทั้ง ๆ ที่ยังเป็นคนแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรร้ายแรงกว่านี้หรือเปล่า น้าของตนยังบอกอีกว่าตนทำถูกหรือไม่ที่ไปแจ้งความ แจ้งทำไม เด็กจะเป็นอะไรหรือเปล่า หรือใครคิดอย่างไรบ้างกับเรื่องนี้

          น.ส.ปีใหม่ ยังระบุด้วยว่า กระทั่งวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา เรื่องราวล่วงเลยมาเกือบ 1 เดือนแล้ว สมองของน้าตนก็ไม่รับรู้อะไรแล้ว มีอาการเบลอ จำคนรอบข้างไม่ได้ จึงเข้ารับการผ่าตัดเลือดคั่งในเยื่อมหุ้มสมองเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ญาติยังได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ และแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันนี้ (14 กรกฎาคม)

          สำหรับเด็กคนที่ก่อเหตุนั้น น.ส.ปีใหม่กล่าวว่า คุณครูหลายท่านให้การว่า เด็กคนดังกล่าวถูกไล่ออกจากโรงเรียนเดิมในชั้น ม.2 และเข้ามาสมัครที่โรงเรียนแห่งนี้ในชั้น ม.1 รูปร่างจึงสูงใหญ่กว่าเพื่อนร่วมชั้น ซึ่งเด็กคนนี้ไม่ได้รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป แถมโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กทำนองว่า "ด้านเลวก็มี ด้านดีก็มี ส่วนใครจะเห็นด้านไหน ก็ขึ้นอยู่กับความจริงใจที่มีให้กัน ที่โพสต์ว่าไม่กลัวใคร ไม่ว่าไม่กล้าทำ แต่เพราะกลัวโดนไล่ออกเลยอ่อยให้ก่อนเท่านั้น"

          เวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ได้ติดต่อไปยังโรงเรียนดังกล่าว ได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ว่า ในวันนี้ (14 กรกฎาคม) ผู้อำนวยการโรงเรียนติดราชการอยู่ที่ จ.ระยอง ส่วน รองผู้อำนวยการอีก 3 ท่านติดประชุมแทนผู้อำนวยการ จึงไม่ได้ใครให้ข้อมูลได้ พร้อมกับแจ้งว่าให้ติดต่อกลับมาอีกครั้งในวันที่ 21 กรกฎาคม

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก