พล.ต.ต. ศุภเศรษฐ์ โชคชัย ผู้การ ปอท. แจงคดีหนุ่มโอนเงิน 1.2 ล้าน ให้วีเจสาว เป็นเรื่องสมยอม และสิทธิส่วนบุคคล ย้ำต้องระมัดระวังและมีวิจารณญาณในการเล่นโซเชียลมีเดีย
จากกรณีที่แม่เข้าแจ้งความเอาผิดลูกชาย หลังแอบกด ATM กว่า 1.2 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปให้กับวีเจสาวรายหนึ่ง ซึ่งในเวลาต่อมา วีเจสาวที่ตกเป็นข่าว ได้ออกมาชี้แจงพร้อมยืนยันว่า ได้เงินจากฝ่ายชายไม่ถึง 1.2 ล้านบาท รับมีโอนเงินให้ 1 แสนบาท แต่คืนแล้ว เผยช่วงคบกันฝ่ายชายให้เงินใช้ โดยไม่ได้ขอ [อ่านข่าว : วีเจสาว ยันได้เงินไม่ถึง 1.2 ล้าน รับช่วงคบกันอีกฝ่ายให้เงินเอง ไม่ได้ขอ]
ความคืบหน้าล่าสุด (21 กรกฎาคม 2559) พล.ต.ต. ศุภเศรษฐ์ โชคชัย ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง เทคโนโลยี (ปอท.) กล่าวว่า กรณีการโอนเงินให้วีเจสาวไอโชว์ ซื้อของขวัญเป็นไอคอลครั้งละ 1-6 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 1.2 ล้านบาทนั้น เรื่องดังกล่าวถือว่า เป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคลไม่เกี่ยวกับความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ใด ๆ
แต่หากเห็นว่าเป็นการฉ้อโกงหรือถูกหลอกลวง ผู้เสียหายสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ เพราะเป็นคดีทางอาญา แต่กรณีลักษณะนี้ ปอท. ไม่สามารถเข้าไปควบคุมดูแลได้ เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนที่มีสิทธิเข้าไปดูอะไรก็ได้ในโซเชีย ลมีเดีย และ ปอท. ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่า ก่อนหน้านี้คู่กรณีมีการพูดคุยอะไรกันบ้าง หากก้าวล้ำมากเกินไปก็จะถูกสังคมหาว่า ล่วงละเมิดสิทธิ
พล.ต.ต. ศุภเศรษฐ์ กล่าวต่อว่า โดยส่วนตัวมองเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นการหลอกลวง แต่น่าจะเป็นเรื่องของการสมยอมมากกว่า เพราะคนที่เป็นลูกก็อายุเกิน 20 ปี ซึ่งถือว่าบรรลุนิติภาวะแล้ว ส่วนเรื่องที่มีการแจ้งความกันก็เป็นเรื่องระหว่างแม่กับลูกที่ต้องไปพูดคุย ตกลงกันเอง ทั้งนี้ ตนขอฝากเตือนประชาชนให้มีความระมัดระวังและมีวิจารณญาณในการเล่นโซเชียลมีเดีย
ขณะที่ พ.ต.อ. โอฬาร สุขเกษม ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า จากเรื่องดังกล่าวต้องดูว่ามีข้อมูลลักษณะใดที่นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แล้วเป็นการหลอกลวงผู้เสียหายหรือไม่ อาจจะเข้าข่ายความผิดทางอาญา หรือทางแพ่งมากกว่า ส่วนตัวของแอพพลิเคชั่นไอโชว์นั้น เป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคลที่มีเสรีภาพทางแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ หากว่าไม่ขัดต่อกฎหมาย ไม่ผิดต่อสังคมรวมทั้งวัฒนธรรมประเพณี
ส่วนกรณีที่ผู้ชมต้องการให้เงิน หรือทรัพย์สินมีค่าด้วยความเสน่หานั้น เป็นเรื่องธรรมชาติ จะชอบจะรักใครขึ้นอยู่กับบุคคล แต่ต้องมีวิจารณญาณด้วย เนื่องจากสื่อทางอินเทอร์เน็ตเหมือนอากาศจับต้องยาก ควรจะพิสูจน์แล้วว่าเป็นของจริง เรื่องจริง แม้จะถูกหลอกว่า ถ้าให้เงินมามากเท่านี้เท่านั้นจะเป็นแฟน ในทางกฎหมายไม่ถือว่าเป็นความผิดทางอาญา เป็นเรื่องของจิตใจ
ติดตามข่าว วีเจโฟร์ ทั้งหมด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
