วีเจโฟร์ เปิดโต๊ะเคลียร์ ยันฝ่ายชายดื้อดึงโอนเงินมาให้-ไอโชว์ ยันแอพฯ ถูกกฎหมาย

วีเจโฟร์

          วีเจโฟร์ เปิดโต๊ะแถลง เคลียร์ชัด แจงละเอียดยิบทุกประเด็น ยันฝ่ายชายดื้อดึงโอนเงินมาให้เอง รวมถึงเรื่องความสัมพันธ์และคุณแม่ไม่ปลื้ม ด้านบริษัทไอโชว์แถลงยืนยัน แอพฯ ถูกกฎหมาย จุดยืนคือเปิดโอกาสให้คนมีความสามารถ ชี้ ระพีพัชร เติมเงินเข้ามาในระบบร่วม 6 แสนบาท

          วันที่ 22 กรกฎาคม 2559 ที่บริษัท ไอโชว์ เอ็นเตอร์เทนเม็นท์ จำกัด เวลา 11.00 น. นายสุรศักดิ์ มุสิกชาติ โปรเจคเมเนเจอร์ของแอพพลิเคชั่นไอโชว์ พร้อมด้วย นายทักษิณ จันทรารักษ์ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลและกฎหมาย บริษัท ไอโชว์ เอ็นเตอร์เทนเม็นท์ จำกัด และ วีเจโฟร์ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงกรณีที่มีแม่เข้าแจ้งความเอาผิดลูกชายโดยอ้างว่าลูกชายแอบกด ATM ไปกว่า 1.2 ล้านบาท นำมาให้วีเจโฟร์ใช้จ่าย จนสุดท้ายลูกชายได้มากราบขอโทษแม่ต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
          นายทักษิณ จันทรารักษ์ กล่าวว่า นโยบายของบริษัท คือการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพด้านการแสดงของบุคคลที่มีความรู้ความสามารถหลากหลายภายใต้กฎระเบียบของบริษัท ที่ผ่านมาบริษัททำหน้าที่เป็นผู้ให้โอกาสในการแสดงออกเชิงสร้างสรรค์ต่อสังคมเพื่อก้าวสู่วงการบันเทิง ในการจัดรายการของบริษัทมีทีมงานคอยตรวจสอบ ในส่วนของการทำงานนั้นน้องโฟร์เป็นวีเจสายพูดคุยเฮฮา ซึ่งตลอดเวลาที่ทำงานน้องเองก็ไม่ได้ทำผิดกฎของบริษัทและดูแลน้องในสังกัดได้เป็นอย่างดี จึงอยากให้มองแยกเป็นประเด็นในส่วนของการทำงาน กับเรื่องส่วนตัวระหว่างน้องโฟร์กับแฟนหนุ่มที่เป็นข่าว

          ทั้งนี้ ในส่วนของแอพพลิเคชั่นนั้น เปิดให้ทุกคนสามารถเข้ามาติดตามพูดคุยกับคนที่ตนเองชื่นชอบได้ฟรีไม่เสียเงิน ซึ่ง VJ แต่ละคนก็จะมีความสามารถและแนวทางการจัดรายการที่แตกต่างกันออกไป โดยรายได้หลัก ๆ ของ iSHOW จะมาจาก ของขวัญที่ User มอบให้มากน้อยขึ้นอยู่กับสไตล์ของแต่ละคน ของขวัญก็จะมีตั้งแต่ราคาถูกสุด 5 บาท ไปจนถึงแพงสุด 10,000 บาท บางคนอยากได้รับความสนใจจาก VJ ก็ทุ่มทุนเป็นเสี่ยแจกรางวัลเยอะเพื่อแลกกับความสนใจและความสนิทของ VJ เป็นต้น โดยคาดว่ายอดรวมของเงินที่นายระพีพัชร เติมเข้ามาในระบบของไอโชว์ จากหลายไอดี น่าจะอยู่ที่ประมาณ 6 แสนบาท

วีเจโฟร์

          นอกจากนี้ ในส่วนของการจัดรายการนั้น ขอยืนยันว่าไม่เคยมีการโชว์ลามกอนาจารอย่างที่เป็นข่าว เพราะทางบริษัทมีการตรวจสอบอย่างละเอียด หากพบการกระทำผิดทำให้เสื่อมเสียจะถูกดำเนินตามกฎระเบียบของบริษัท พร้อมยืนยันว่าบริษัทดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องและมีการขออนุญาตทุกขั้นตอน
        
          ด้าน วีเจโฟร์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ นายระพีพัชร เคยโอนเงินมาให้ตนเองจำนวน 3 แสนบาท เพื่อให้ช่วยเติมเงินเข้าระบบไอโชว์ให้ ซึ่งก่อนหน้านี้ นายระพีพัชร ก็เคยฝากคนอื่นช่วยเติมเงินเข้าระบบให้เช่นกัน ตนจึงเติมเข้าระบบให้ตามที่ต้องการ เพื่อให้นายระพีพัชร นำไปใช้เล่นในระบบไอโชว์ได้ตามที่ต้องการ ส่วนเรื่องประเด็นอื่น ๆ นั้นตนเองได้ชี้แจงผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก "VJFour suaymaisrang" ไปแล้วทั้งหมด โดยมีรายละเอียดต่อไปนี้

- ประเด็นที่ 1 ความสัมพันธ์

          เรารู้จักเขาประมาณต้นปีจากการที่เขาเข้ามาเล่นแอพพลิเคชั่น ซึ่งเราทำงานเป็นวีเจ ในบรรดาวีเจหลาย ๆ คนก็รู้จักฝ่ายชาย เพราะเขามักส่งของขวัญให้กับวีเจหลาย ๆ คน จากนั้นเขาเริ่มมาติดตามเราประมาณช่วงเดือนมีนาคม 2559 เราก็คุยกับเขาเป็นพิเศษ เขาส่งของขวัญให้เรามากขึ้น จากนั้นเมื่อประมาณช่วงสงกรานต์ เราเดินทางกลับบ้านที่ลำปาง ขากลับเดินทางเข้าพัทยา เราและพี่สาวได้แวะเอาของฝากจากภาคเหนือไปฝากเขา นัดเจอกันที่ปั๊มน้ำมันจังหวัดอยุธยา ซึ่งเป็นการพบกันครั้งแรก จากนั้นเราก็ศึกษาดูใจกับเขาเรื่อยมา โดยเขาพาเราไปบ้านหลายครั้ง แนะนำเราให้รู้จักกับครอบครัวของเขา แต่มารดาของฝ่ายชายไม่พอใจให้คบกัน เราได้พยายามปรับตัวเพื่อให้มารดายอมรับ มีอยู่วันหนึ่งเขาได้ไลน์มาถามเราว่ารู้จักทางไปบ้านหมอจับเส้นแห่งหนึ่งที่จังหวัดเลยใช่มั้ย เขาบอกว่ามารดาเขาได้ชวนเราไปกับครอบครัวเขาด้วย เราก็เลยขับรถของเรานำทางพาไป เราก็เข้าใจว่ามารดาเขายอมรับเราแล้ว เราก็ไปมาหาสู่กับทางฝ่ายชายเรื่อยมาจนกระทั่งเย็นวันที่ 13 กรกฎาคม 2559 เราจะต้องเดินทางไปพัทยาเพื่อไปเฝ้าบ้านให้พี่สาว มารดาของฝ่ายชายบอกให้ลูกชายนั่งรถมาเป็นเพื่อนกลับพัทยา เพราะเห็นว่าเรากลับคนเดียว เพราะตอนนั้นเย็นมากแล้ว ฝ่ายชายยังได้บอกกับแม่ว่า ถ้าให้ไปต้องไปหลายวันนะ เพราะมีธุระหลายวัน มารดาก็รับทราบ จากนั้นเรากับฝ่ายชายเดินทางไปพัทยาเราก็เห็นว่าฝ่ายชายโทร. หามารดาเพื่อที่จะบอกว่าถึงแล้วนะ ปรากฏว่ามารดาไม่ได้รับสาย เพราะฉะนั้นที่มารดาฝ่ายชายแจ้งความอ้างว่าลูกชายเขาหายออกจากบ้านไปพร้อมเราไม่ทราบว่าหายไปไหน ไม่เป็นความจริง มารดาฝ่ายชายรู้ดีแก่ใจ

          จากนั้นวันที่ 17 กรกฎาคม 2559 ฝ่ายชายได้พูดคุยโทรศัพท์กับมารดาของเขา ด้วยท่าทีที่มีปัญหา เหมือนทะเลาะกัน เราได้พยายามถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฝ่ายชายก็ไม่ยอมตอบ จนกระทั่งฝ่ายชายยื่นโทรศัพท์ให้พร้อมบอกว่ามารดาขอคุยด้วย เรารับโทรศัพท์มาพูดคุยกับมารดาของเขา ปรากฏว่ามารดาฝ่ายชายต่อว่าด่าทอด้วยถ้อยคำเสีย ๆ หาย ๆ ด่าครอบครัวของเรา ด่าว่าอาชีพของเรา กล่าวหาว่าเราเป็นผู้หญิงขายบริการ แม่เราเป็นแม่เล้า ทั้งที่ไม่ได้เป็นความจริงเลย มารดาของฝ่ายชายบอกเราว่า ฝ่ายชายเอาเงินของเขาไป เราก็เข้าใจว่าเป็นเงินที่ฝ่ายชายให้เรามา 1 แสนบาท เพื่อช่วยในการดาวน์รถ พอเราทราบเรื่องว่าเป็นเงินที่เขาเอามาจากมารดาเราก็โอนเงินไปคืนมารดา 1 แสนบาททันที เราก็คิดว่าคงไม่มีอะไรแล้ว

          ต่อมาวันที่ 18 กรกฎาคม 2559 ฝ่ายชายก็ยังไปเป็นเพื่อนเราออกรถใหม่จากโชว์รูม หลังจากนั้นประมาณช่วง 4 โมงเย็น เราได้รับข่าวจากเพื่อนว่า มีการแจ้งความจับลูกชายแล้วพาดพิงถึงเรา โดยหาว่าเราเอาเงินไปจำนวน 1 ล้าน 2 แสนบาท ซึ่งมันไม่จริง

วีเจโฟร์

- ประเด็นที่ 2 เรื่องเงิน


          วันที่ 7 มีนาคม 2559 เขาได้โอนเงินผ่านบัญชีของเรา ให้เราเติมเงินใส่แอคเคาท์ของเขา เพื่อที่เขาจะได้เอาไปซื้อของขวัญให้วีเจทั้งหลายที่อยู่ในแอพพลิเคชั่น ช่วงเดือนเมษายน เขาก็ยังคงโอนเงินผ่านเราเพื่อเติมเงิน แต่เริ่มมีการโอนเงินบางส่วนเพื่อให้เราไว้ใช้ ในฐานะที่เรากำลังศึกษาดูใจกับเขา และเขายังคงโอนเงินในลักษณะนี้จนถึงเดือนมิถุนายน 2559 แล้วเดือนกรกฎาคม 2559 เขาได้โอนเงินจำนวน 99,880 บาทเพื่อช่วยในการดาวน์รถ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 481,870 บาท โดยแบ่งเป็นเงินที่เขาฝากเราเติมเงินเพื่อให้เราโอนเข้าบริษัทเป็นเงินจำนวน 261,500 บาท และเมื่อเกิดเรื่องขึ้น เราได้โอนเงินดาวน์รถจำนวน 99,980 บาทคืนแก่มารดาฝ่ายชาย เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2559 เวลา 11.13 น. เป็นที่เรียบร้อย และก่อนหน้าที่จะมีเรื่องดังกล่าวเราเคยยืมเงินเขาแล้วก็ได้โอนเงินคืนเขาไป 20,000 บาท จะเหลือเงินที่เขาให้เราจริง ๆ สำหรับใช้ส่วนตัวสุทธิแล้วอยู่ที่ 100,490 บาท ซึ่งจำนวนนี้เขาให้เราไว้ติดตัวใช้จับจ่ายซื้อของตามประสาผู้หญิง เงินจำนวน 100,490 บาทไม่ได้โอนมาครั้งเดียวแต่โอนมาทีละบางส่วน

          ดังนั้นเงินที่เราได้รับจากเขาจริง ๆ แล้วมีเพียงแค่ 100,490 บาท ไม่ได้เป็นไปตามข่าวแต่อย่างใด ส่วนเขาจะนำเงินมาจากไหน เราไม่เคยทราบ เราเข้าใจว่าเขาทำมาหากินเอง เป็นคนเลี้ยงดูครอบครัว เพราะเป็นคำพูดที่เขาบอกเราเสมอมา เราก็ยังชื่นชมเขา ที่อายุ 28 ปีแล้วสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้

- ประเด็นที่ 3 เราไม่ได้บังคับขู่เข็ญหรือหลอกลวงเขาแต่อย่างใด

          ส่วนมากในการโอนเงินแต่ละครั้ง เขาจะเป็นฝ่ายเสนอตัวโอนเงินมาเอง อย่างเช่น วันที่ 20 เมษายน 2559 เขาก็ได้โอนเงินเข้ามา 59,900 บาท โดยที่เราไม่ทราบมาก่อนว่าเขาจะโอนเข้ามา และไม่เคยขอเขา แต่เขาก็โอนให้ เราเองยังได้ต่อว่าเขาว่ามันเยอะเกินไป ดังหลักฐานที่ปรากฏในไลน์

- ประเด็นที่ 4 ทิ้งเขาที่รังสิต

          เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2559 พอเราทราบเรื่องว่ามีการแจ้งความกัน ฝ่ายชายพยายามโทรศัพท์คุยกับมารดา และโต้เถียงกันผ่านไลน์ เราได้เก็บหลักฐานไลน์จากเครื่องของฝ่ายชายว่าเขาไม่ให้เราไปกับลูกชายเขา เขาต้องการตัวลูกชายเขากลับเพียงคนเดียว เราได้ปรึกษากับฝ่ายชายว่าให้เขากลับไปคุยกับมารดาก่อน แล้วฝ่ายชายขอให้เราไปส่งที่อยุธยา เราและพี่สาวก็ยินยอมที่จะไปส่ง แต่ต่อมาเขาเปลี่ยนให้เราไปส่งที่ปั๊มน้ำมันแถวรังสิต เพราะฝ่ายชายได้นัดให้น้องเขยกับน้องสาวไปรับแถวรังสิต เราและพี่สาวก็ได้ไปส่งเขาที่ปั๊มดังกล่าว โดยรถที่มารับเขาเป็นรถฟอร์จูนเนอร์สีบรอนซ์ทอง ซึ่งเป็นรถน้องเขยเขา จากนั้นเมื่อเราเดินทางกลับถึงบ้านของเราที่พัทยา ก็ปรากฏข่าวออกตามสื่อว่าวีเจสาวชิ่งหนีทิ้งฝ่ายชายไว้ที่รังสิต ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย

- ประเด็นที่ 5 ทนายขู่ฟ้อง

          ในช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา พอเรารับรู้ข่าวจากตามสื่อ เราและพี่สาวและเพื่อน ๆ ของพี่สาว ได้ช่วยกันโทรศัพท์ไปยังสำนักข่าวต่าง ๆ เพื่อให้ช่วยลบชื่อ และเบลอใบหน้า เพราะขณะนั้นหลายสื่อได้ลงรูปที่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นเรา และมีบางสื่อลงชื่อว่าวีเจโฟร์ เราได้รับความเสียหาย จึงขอความกรุณาไปตามสื่อต่าง ๆ และทนายที่โทรศัพท์ไปที่สื่อท้องถิ่นของอยุธยา เป็นเพื่อนกับพี่สาว เขาได้โทร. ให้สื่อดังกล่าวนั้นช่วยเบลอรูป เบลอชื่อ ช่วยลบรูป ลบชื่อ เพราะภาพข่าวต่าง ๆ ถูกแชร์ไปยังโลกออนไลน์จำนวนมาก เพื่อนพี่สาวก็เป็นห่วง แต่ไม่ได้ขู่ฟ้องแต่อย่างใด และเพื่อนพี่สาวก็ไม่ได้แนะนำให้เราฟ้อง มีแต่แนะนำให้เราพูดคุยเพื่อหาข้อยุติ และแถลงความจริงให้สื่อต่าง ๆ รับรู้ ดังนั้นจึงไม่มีการขู่ฟ้องมารดาของฝ่ายชายแต่อย่างใด

วีเจโฟร์

- ประเด็นที่ 6 การฝากเราเติมเงิน

          เหตุที่เขาเติมเงินโดยการโอนเงินผ่านบัญชีเรา เพราะถ้าเขาฝากเติมเงินโดยผ่านทางวีเจ เขาจะไม่เสียค่าธรรมเนียมการเติมเงินแต่อย่างใด เขาจึงได้โอนเงินผ่านเข้าบัญชีเราเป็นจำนวนหลายครั้ง รวมกันเป็นเงิน 261,500 บาท และเราก็โอนยอดเงินที่เขาโอนมาในแต่ละครั้งเข้าบริษัทตลอด ยอดเงินดังกล่าวจะได้ถูกสะสมในแอคเคาท์ของเขา และเขาจะได้ใช้ซื้อของขวัญหรือร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของแอพพลิเคชั่นไอโชว์ เงินจำนวนดังกล่าวแค่ผ่านจากเราเพื่อเติมเงินในแอคเคาท์ของตัวฝ่ายชายเองเท่านั้น

- ประเด็นที่ 7 มารดาฝ่ายชายต้องการให้เลิก

          มารดาฝ่ายชายเคยบังคับให้ฝ่ายชายเลิกกับเรามาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เราก็ยังไม่ได้เลิกกัน พอเกิดเรื่องดังกล่าวมารดาฝ่ายชายบังคับให้เลิกติดต่อกัน ถ้าไม่เลิกจะทำให้เราอับอายและเสียชื่อเสียง แต่ข่าวที่ออกไปนั้นกลับกลายเป็นว่าเราทิ้งฝ่ายชาย เพราะไม่มีเงินแล้ว ไม่ยอมติดต่อไม่รับสายทั้ง ๆ ที่ฝ่ายชายถูกทำทัณฑ์บนว่าห้ามติดต่อเราไม่งั้นจะถูกดำเนินคดี เราจึงไม่ได้ติดต่อกัน เพราะไม่อยากให้มารดาเขาจับเขาเข้าคุกเพราะเราก็รักและเป็นห่วงเขาเหมือนกัน

- ประเด็นที่ 8 เรื่องออกรถ

          เราได้ติดต่อไฟแนนซ์เพื่อทำเรื่องออกรถโดยเราวางเงินดาวน์ จำนวน 4 แสนบาท เงินจำนวนดังกล่าวนั้นนำมาจากเราขายรถคันเก่าได้เงินมา 280,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือ จำนวน 120,000 บาท เราได้เอาเงินเก็บส่วนตัวโดยขายทองและเงินพี่สาวเพื่อดาวน์รถดังกล่าว ไม่มีเงินของฝ่ายชายตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ที่ชี้แจงมาทั้งหมดคือเรื่องจริงทั้งหมด มีหลักฐานยืนยันชัดเจน ขอบคุณค่ะที่เปิดใจรับฟัง

วีเจโฟร์

ติดตามข่าว วีเจโฟร์ ทั้งหมด

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วีเจโฟร์ เปิดโต๊ะเคลียร์ ยันฝ่ายชายดื้อดึงโอนเงินมาให้-ไอโชว์ ยันแอพฯ ถูกกฎหมาย อัปเดตล่าสุด 25 กรกฎาคม 2559 เวลา 11:30:40 45,999 อ่าน
TOP
x close