
ทรู ยันขอซิมใหม่ต้องใช้บัตรประชาชนตัวจริง รับหนุ่มถูกคนร้ายเปลี่ยนรหัสโอนเงินเป็นความผิดพนักงาน ด้านกสิกรยกเลิกเปลี่ยนรหัส K-Banking ผ่านคอลเซ็นเตอร์
จากกรณีที่นายพันธุ์สุธี มีลือกิจ เจ้าของร้านประดับยนต์ อายุ 28 ปี และครอบครัว ได้นั่งประท้วงหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังถูกคนร้ายโอนเงินจำนวน 986,700 บาท ที่ฝากเอาไว้ในบัญชีธนาคารกสิกรไทย โดยคนร้ายใช้วิธีติดต่อขอเปลี่ยนซิมที่ทรูช็อปก่อนโทรไปเปลี่ยนรหัส แอพพลิเคชั่น K-Cyber Banking และโอนเงินในบัญชีไปจนเกลี้ยง ซึ่งภายหลังธนาคารกสิกรไทยยอมคืนเงินให้เต็มจำนวนทั้งหมดนั้น (อ่านข่าว : กสิกรไทย คืนเงินทั้งหมด หนุ่มโดนตุ๋น K-Cyber Banking กวาดเงินเกลี้ยงบัญชี)
ทั้งนี้ทางบริษัทจะเพิ่มมาตรการป้องกันความปลอดภัยให้มีความเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้ลูกค้ามีความลำบากขึ้น แต่ก็เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าเอง และเพื่อรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางบริษัทจะมอบโทรศัพท์มือถือของ ทรู เพื่อให้ลูกค้าซึ่งเป็นผู้เสียหายใช้งานต่อไป
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ธนาคารกสิกรไทยประกาศยกเลิกให้บริการเปลี่ยนรหัส K-cyber Banking ผ่านทางคอลเซ็นเตอร์แล้ว เพื่อป้องกันปัญหาจากกรณีดังกล่าว และไม่อยากให้ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำอีก การเปลี่ยนรหัสจะทำได้ช่องทางเดียว คือเคาน์เตอร์ของธนาคาร ซึ่งต้องใช้บัตรประชาชนตัวจริงและสมุดบัญชีเท่านั้น พร้อมแนะนำลูกค้าในการรักษาข้อมูลส่วนตัว
โดยธนาคารกสิกรไทย ได้ออกคำชี้แจงกรณีดังกล่าวดังนี้
1. จากจำนวนเงินที่ลูกค้าถูกคนร้ายถอนไป เนื่องจากคนร้ายได้ข้อมูลจากลูกค้าไปทำทุจริต ธนาคารเสนอความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาภาระของลูกค้าครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินที่ ถูกทุจริต และจะช่วยลูกค้าอย่างเต็มที่ในการติดตามตัวคนร้าย
2. ลูกค้ามั่นใจได้ว่าระบบของธนาคารมีความปลอดภัย เนื่องจากเรามีการ verify ตัวตนลูกค้าก่อนให้บริการทุกครั้ง ทั้งนี้ทางธนาคารขอแนะนำว่า ลูกค้าควรเก็บข้อมูลส่วนตัวไว้เป็นความลับ เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการ รวมถึงธนาคารจะดำเนินการในการติดต่อผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในด้านการ verify ตัวตนลูกค้าในการออกซิมใหม่ให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุในการเกิด fraud รับ OTP ในการโอนเงินในครั้งนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก






