ผู้อำนวยการโรงเรียน เผยครูพละปาแก้วใส่เด็กจนหน้าเบี้ยวเครียด ต้องส่งเพื่อนครูประกบให้กำลังใจ บอกอยากให้เรื่องจบด้วยดีและให้เด็กคู่กรณีกลับมาเรียนที่เดิม
จากกรณีของน้องทราย นักเรียนชั้น ม.5 ถูกนายไพฑูรย์ แกลงกระโทก อายุ 58 ปี ครูพละปาแก้วใส่ผนังกระจกก่อนจะกระเด็นมากระแทกหูด้านซ้าย ทำให้เส้นประสาทอักเสบส่งผลให้ใบหน้าเบี้ยวผิดรูป ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนวินัยสรุปว่า การกระทำดังกล่าวไม่ผิดวินัยร้ายแรงนั้น [อ่านข่าว : ครูปาแก้วใส่นักเรียน]
ผอ.โรงเรียนโชคชัยสามัคคี กล่าวต่อว่า สำหรับบทลงโทษนั้น ทางคณะกรรมการจาก สพม.เขต 31 ได้สรุปแล้วว่า ผิดวินัยไม่ร้ายแรง ส่วนทางญาติผู้เสียหายมองว่าโทษเบาไปเกินไปขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ซึ่งครูที่ก่อเหตุต้องรอผลสรุปจากกรรมการชุดที่ 2 ที่จะมีการพิจารณาภายใน 15 วัน ซึ่งมีโทษทางวินัยไม่ร้ายแรงมี 3 กรณี คือ กล่าวตักเตือน, ตัดเงินเดือน และลดขั้นเงินเดือน แต่จะกลับมาสอนที่เดิมหรือนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้บังคับบัญชาระดับเขต
ขณะที่ ร.ต.อ. กานต์ สิงห์ช้างชัย พนักงานสอบสวน สภ.โชคชัย เจ้าของคดีกล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานทางโรงเรียนให้ส่งนักเรียน 9 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ ม.5/10 จำลองสถานการณ์อย่างละเอียดเพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวน และนักสังคมสงเคราะห์ในวันที่ 20 กันยายนนี้ ก่อนรวบรวมสรุปสำนวนส่งฟ้องภายในสัปดาห์หน้า
เกาะติดข่าว ครูพละปาแก้วใส่นักเรียน ทั้งหมด
ภาพจาก สำนักข่าวไทย, เฟซบุ๊ก มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี, สำนักข่าวไทย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก